First cryptocurrency fund approved in Switzerland
สวิตเซอร์แลนด์ อนุมัติ! กองทุน Crypto ตัวแรก ที่ถูกต้องตามกฎหมาย!!
By HELEN PARTZ
การยอมรับ Cryptocurrency ยังคงได้รับแรงผลักดันในสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากหน่วยงานด้านการเงินในท้องถิ่นให้การอนุมัติด้านกฎระเบียบเพิ่มเติม สำหรับเครื่องมือการลงทุนใน crypto
โดยหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสวิส (FINMA) ได้อนุมัติ Crypto Market Index Fund เป็น"กองทุน crypto แรก ตามกฎหมายของสวิส" ที่ผู้มีอำนาจประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 กันยายน
ซึ่งกองทุน launched โดย Crypto Finance เป็นผู้จัดการสินทรัพย์ของชาวสวิสและบริหารงานโดยบริษัทจัดการการลงทุนอย่าง PvB Pernet von Ballmoos AG ที่เป็นผู้ดูแล SEBA Bank AG
FINMA ตั้งข้อสังเกตว่า กองทุนที่ได้รับการอนุมัติใหม่นี้ จำกัดเฉพาะนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยส่วนใหญ่ลงทุนในคริปโตเคอเรนซีหรือสินทรัพย์ดิจิทัล “บนพื้นฐานของเทคโนโลยีบล็อกเชนหรือ distributed ledger technology”
ด้านหน่วยงานกำกับดูแล กล่าวว่า กองทุน Crypto Market Index Fund สามารถลงทุนใน cryptocurrencies ชั้นนำที่มี "ปริมาณการซื้อขายที่สูง"
จากข้อมูลของ Crypto Finance กองทุนจะติดตาม performance ของ Crypto Market Index 10 ซึ่งเป็น product ที่บริหารโดย SIX Swiss Exchange
“วัตถุประสงค์ของ Crypto Market Index 10 คือ การวัด performance ของสินทรัพย์และ tokens crypto ที่ใหญ่ที่สุด มีสภาพคล่องที่ดี และเพื่อให้เป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ลงทุนได้ สำหรับสินทรัพย์ประเภทนี้” Crypto Finance กล่าว
FINMA เสริมว่า นักลงทุนจะต้องลงทุนผ่านคู่สัญญาที่จัดตั้งขึ้น ซึ่งอยู่ใน member countryของ Financial Action Task Force เท่านั้น และต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบป้องกันการฟอกเงิน
ในการร่วมอนุมัติกองทุน FINMA ยังได้อนุมัติ SEBA Bank AG ให้เป็นบริการรับฝากทรัพย์สินระดับสถาบัน โดยให้ใบอนุญาต CISA แก่บริษัท
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานอนุญาตให้ SIX Swiss Exchange เปิดตัว digital marketplace และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ที่ distributed ledger technology ในต้นเดือนกันยายน
สำหรับนักลงทุนที่ สนใจ ข้อมูลการลงทุนเชิงลึก
จากบทวิเคราะห์ระดับโลก รวมหลักแสนต่อปี
สามารถ สมัครเข้าดูได้ที่ห้องเรียนวงในครับ
สนใจ คอมเม้นใต้บทความได้เลย
--------------------------------
แอดปลา
同時也有5部Youtube影片,追蹤數超過25萬的網紅iT24Hrs,也在其Youtube影片中提到,AI University หนึ่งในแผนงานของ depa ในปี 2564 นอกจากนี้ยังมีอีกหลายแผนงาน ไม่ว่าจะเป็น คูปองดิจิทัล Drone University Smart City และอื่นๆอีกมากมายที่จ...
「digital technology คือ」的推薦目錄:
digital technology คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
สรุปประเด็นจากกองทุนบัวหลวง
เปิดสูตรเฟ้นหา หุ้นอนาคตในอเมริกาเข้าพอร์ตระยะยาว
BBLAM x ลงทุนแมน
อังคารที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา ลงทุนแมนได้ชวนผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ คุณมทินา วัชรวราทร CFA®, Head of Investment Strategy กองทุนบัวหลวง
มาพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นการเฟ้นหาหุ้นอนาคตในอเมริกาเข้าพอร์ตระยะยาว
โดยเริ่มตั้งแต่อัปเดตสถานการณ์ล่าสุดในสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจในช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ไปจนถึงผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ในไตรมาสที่ 2
ตัวเลขเหล่านี้กำลังส่งสัญญาณอะไร ?
เราจะมีวิธีการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง..
มาเริ่มต้นกันที่ สรุปภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐอเมริกา เกิดอะไรบ้างในช่วงที่ผ่านมา ?
ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกา มีการทำ QE หรือ การซื้อสินทรัพย์ เช่น พันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ เพื่อให้ระบบมีเงินหมุนเวียนมากขึ้น ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นสามารถดำเนินต่อไปได้
โดยประเด็นหลักที่ตลาดยังคงจับตามองในปีนี้คือ การลดขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์ หรือที่เรียกว่า QE Tapering ซึ่งประธาน FED ออกมาพูดว่า การทำ Tapering จะเริ่มขึ้นในปีนี้ และเป็นการตัดสินใจแยกกันกับ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หมายความว่า หากเริ่มทำ Tapering ดอกเบี้ยก็ไม่จำเป็นจะต้องปรับขึ้นในทันที
นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกาจะยังใช้นโยบายการเงินที่ค่อนข้างผ่อนคลายต่อไป ทำให้ตลาดสหรัฐอเมริกา กลับมาเป็นขาขึ้น และเงินก็จะวิ่งเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง
ซึ่งทางกองทุนบัวหลวงคาดว่า FED จะค่อย ๆ ลดการทำ QE ลงโดยจะใช้เวลาประมาณ 8 เดือน และ FED มีแนวโน้มจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในปี 2024 แต่ก็ยังเป็นอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ
ดังนั้น นโยบายโดยรวม จึงยังเอื้ออำนวยให้การลงทุนในตลาดหุ้นยังให้ผลตอบแทนได้ดีกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ ไปอีกสักระยะ
แต่ก็ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้ FED ชะลอการทำ QE Tapering ได้ เช่น ตัวเลขการจ้างงาน ที่ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ไปมาก
อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง คือ เงินเฟ้อ ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 5.4%
ถึงแม้ว่า ราคา สินค้าโภคภัณฑ์บางตัว ลดลงมาแล้ว เช่น ราคาไม้ ทองแดง แต่ราคาบ้านและค่าเช่าบ้านในสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่ลดลงมา ก็อาจทำให้เงินเฟ้อยังคงสูงได้
แล้วโหมดการลงทุนช่วงนี้ต้องปรับ หรือจับสัญญาณต่ออย่างไรดี ?
กองทุนบัวหลวงก็เชื่อว่าในระยะสั้น เงินจะยังไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง และเงินยังอยู่ในหุ้นสหรัฐอเมริกา
โดยในเดือนที่ผ่านมา ผู้จัดการกองทุนหลายรายในสหรัฐอเมริกาเข้าลงทุนกลุ่ม Healthcare มากที่สุด
จากความต้องการหาการลงทุนในเชิงคุณภาพ และหุ้นใหญ่ที่ปลอดภัย และที่ผ่านมากลุ่ม Healthcare ยังถือเป็นกลุ่มที่ Laggard หรือเติบโตได้ช้า เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น
แต่ถ้าหากดูกลุ่มที่ผู้จัดการกองทุนมีการถือครองมากที่สุด ก็ยังคงเป็นกลุ่มเทคโนโลยี
ถ้าเทียบระหว่างเทคโนโลยีที่เป็น Hypergrowth อย่างเช่น หุ้น Tesla, Roku, Shopify กับ ดัชนี Nasdaq ที่ เป็นหุ้นเทคโนโลยีใหญ่ ๆ เช่น Microsoft, Facebook, Amazon ก็จะเห็นว่าในภาพรวม เงินไหลออกจากกลุ่ม Hypergrowth มาเข้าฝั่ง Nasdaq
ซึ่งปริมาณเงินส่วนที่ไหลเข้ามาในตลาด Nasdaq ยังอยู่ที่ประมาณค่าเฉลี่ย ซึ่งหมายความว่า ไม่น่าเกิดฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยี อย่างที่หลายคนกังวล
โดย Nasdaq ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีเพิ่มมา 18% ประกอบกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ยังมีผลกำไรที่ยังเติบโตต่อเนื่อง
กองทุนบัวหลวงมองว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ต่อไป แต่อาจต้องใช้วิธี Active Management หรือการบริหารพอร์ตเชิงรุก เพื่อหาบริษัทที่มูลค่ายังไม่สูงเกินไป
นอกจากนั้น กองทุนบัวหลวงยังมองว่าในสามเดือนสุดท้ายของปีนี้ เงินจะยังอยู่ในฝั่งตลาดพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น เนื่องจากมีความสามารถในการบริหารจัดการโควิด 19 ได้ดี และมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เศรษฐกิจกลับคืนสู่ภาวะปกติได้เร็ว
สำหรับรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐอเมริกา ในไตรมาสที่ผ่านมา ถือว่าเติบโตได้ดีมาก
ผลกำไรภาพรวมของตลาด ออกมาสูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความเสี่ยงและความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ จากห่วงโซ่การผลิตที่มีปัญหาและค่าจ้างที่สูงขึ้น ซึ่งกองทุนบัวหลวงมองว่า เป็นเพียงระยะสั้น และจะคลี่คลายในระยะปานกลางจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
คำถามต่อมาคือ S&P 500 จะสามารถไปได้ต่ออีกหรือไม่ และแพงไปแล้วหรือยัง ?
ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นมา ตามกำไรของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นมาต่อเนื่อง และนักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการเป้าหมาย S&P 500 เป็น 4,600 (ตอนนี้อยู่ที่ราว ๆ 4,500) หมายความว่า ดัชนี S&P 500 จะยังคงไปต่อได้
อีกทั้งสหรัฐอเมริกายังเป็นตลาดการเงินที่สภาพคล่องสูงที่สุดในโลก รวมไปถึงมีบริษัทที่มีคุณภาพดีมากที่สุดในโลก ทำให้ P/E ที่ 20 เท่า ก็ยังสามารถลงทุนได้
แล้วควรลงทุนเมื่อไร ดอกเบี้ยขึ้น จับจังหวะอย่างไร ?
ถ้าเราลองย้อนไปดูสถิติ 12 เดือนก่อนที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ย จะเห็นว่าตลาดสามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถปรับตัวขึ้นได้อีกหลังจากที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นครั้งแรก
โดยกองทุนบัวหลวง แนะนำหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจ คือให้เข้าสะสมแบบมีวินัย ลงทุนแบบสม่ำเสมอ หรือ DCA เนื่องจากการจับจังหวะตลาดสหรัฐอเมริกา หรือไม่ว่าตลาดไหน ๆ เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
ทีนี้หลายคนคงกังวลว่า เงินทุนเริ่มไหลออกจากกลุ่ม Hypergrowth แล้วเงินส่วนนี้ย้ายไปอยู่ที่ไหน ?
จากที่ได้กล่าวมาข้างต้น คือปัจจุบัน เงินทุนไหลออกจากหุ้นในกลุ่ม Hypergrowth แต่ปรากฏว่าดัชนี Nasdaq นั้นยังคงปรับตัวสูงขึ้น ที่เป็นแบบนี้เพราะเงินกำลังไหลไปยังบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ๆ นั่นเอง
หลายคนอาจมองว่า บริษัทเหล่านี้น่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด 19 แต่กลับกลายเป็นว่า จากวิกฤตินี้ทำให้คนหันมาพึ่งเทคโนโลยีกันมากขึ้น
โดยสังเกตได้จากรายได้ของบริษัทเทครายใหญ่ ที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเรื่องของแผนในอนาคตที่น่าจับตามอง ทำให้นักลงทุนยังคงให้ความสนใจ
ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Facebook และ Microsoft
Facebook เป็นบริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, WhatsApp ที่มีรายได้หลักมาจากค่าโฆษณาออนไลน์
โดยจุดเด่นของ Facebook คือ ความสามารถในการยิงโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ พร้อมทั้งยังมีโอกาสเติบโตไปกับอุตสาหกรรมสื่อออนไลน์อีกมาก เนื่องจากโควิด 19 ก็เป็นตัวเร่งที่ทำให้คนหันมาพึ่งเทคโนโลยีกันมากขึ้น
สำหรับแผนในอนาคตของ Facebook นั้นยังคงเป็นเรื่องของแผนการปรับตัวให้บริษัทเป็น บริษัท “Metaverse” หรือโลกแห่งการผสมผสาน ระหว่างโลกจริงและโลกเสมือน อย่างเต็มตัว
โดย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก CEO ของ Facebook มองว่า โลกของ Metaverse จะกลายเป็นอนาคตของโลกอินเทอร์เน็ต โดยล่าสุดก็ได้มีการเปิดตัว Horizon Workrooms ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปประชุมได้แบบเสมือนจริง ผ่านตัวละคร Avatar
มาต่อกันที่บริษัทซอฟต์แวร์ที่เราคุ้นเคยกัน อย่าง “Microsoft” ซึ่งในปีที่ผ่านมายังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยมูลค่าบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ก็เนื่องมาจาก ผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมา ที่ยังคงเติบโต 17% จากบริการ Intelligence Cloud ที่เติบโตได้ดี
แต่ที่น่าสนใจคือเรื่องของแผนในอนาคต อย่างการทำโลกเสมือน หรือที่ทาง Microsoft เรียกว่า Digital Twin ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการทำ Metaverse ของ Facebook แต่จะเป็นการก๊อบปี้ของจริงมาไว้บนโลกออนไลน์แทน เช่น จำลองสถานที่ จำลองตึก เพื่อนำมาใช้ทดสอบการบินของโดรนก่อนเอาออกไปใช้งานจริง
ทั้งนี้ในส่วนของ Theme โลกเสมือนนั้น อาจมีความเสี่ยง เรื่องที่จะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อย กว่าที่เราจะได้สัมผัสแบบเต็ม ๆ
แต่นี่เป็นเหมือนการส่งสัญญาณว่าบริษัทเทคโนโลยีหลายรายกำลังตื่นตัวกับการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และมีการเตรียมพร้อม มองหาช่องทางการเติบโตใหม่ ๆ หรือที่เรียกว่า New S-Curve อยู่ตลอดเวลา
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่า แล้วกระแสเงินลงทุนที่ดูมีการเปลี่ยนทิศเปลี่ยนทางเช่นนี้ จะมีผลกระทบกับกองทุน B-USALPHA และ B-FUTURE แค่ไหน ?
สำหรับกองทุน B-USALPHA นั้น หลายคนอาจจะคิดว่ากองนี้มีแต่ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างเดียว
แต่ถ้ามาดูสัดส่วนของหุ้นในพอร์ตการลงทุนนั้นจะพบว่า กองทุนพยายามให้ความสมดุลระหว่างหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กับกลุ่มวัฏจักรในสหรัฐอเมริกา โดยกองทุนนี้มีแบ่งส่วนการลงทุนด้วยกันหลัก ๆ 3 อย่าง คือ
1. กลุ่ม Digital Advertising เช่น Facebook, Pinterest, Snap
2. กลุ่ม สถาบันการเงิน เช่น Morgan Stanley, PayPal, Square
3. กลุ่ม Technology Enabled หรือก็คือ ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีสร้างนวัตกรรม เช่น Deere & Company, Freeport-McMoRan, Zillow Group
ทั้งกลุ่ม Digital Advertising และ Technology Enabled นั้นยังมีโอกาสเติบโตไปพร้อมกับการเปิดเมือง
ส่วนการลงทุนในกลุ่มสถาบันการเงิน จะช่วยสร้างสมดุล และลดความเสี่ยงของพอร์ตในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่อาจปรับตัวสูงขึ้น ที่ทำให้กลุ่มของธุรกิจสถาบันการเงินนั้นได้รับประโยชน์ไปด้วย จากอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับสูงขึ้น
ส่วนกองทุน B-FUTURE นั้น มีการกระจายลงทุนในธุรกิจ 3 กลุ่มคือ เทคโนโลยี Hypergrowth, อุตสาหกรรม และกลุ่มธุรกิจ Theme เปิดเมือง
โดยในส่วนของกลุ่ม Hypergrowth นั้น ทางผู้จัดการของกองทุน ก็ได้เน้นอย่างมาก กับการลงทุนในหุ้นที่ยังมี Valuation ไม่สูงจนเกินไป
นอกจากนี้ ทางกองทุนยังเน้นการลงทุนใน Theme อนาคต ไม่ได้เจาะจงในประเทศใดประเทศหนึ่ง โดยมีผู้จัดการกองทุนที่คอยปรับพอร์ตตามสถานการณ์การลงทุนต่าง ๆ
ด้วยนโยบายการบริหารแบบ Active Management ทำให้ B-FUTURE สามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตให้เข้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา
เช่น หากมองว่าในระยะยาว หุ้นกลุ่มเอเชียหรือจีน ยังมีโอกาสเติบโตมาก ความกดดันของรัฐบาลจีนคลี่คลายลง แล้วยังมี Valuation ที่ไม่สูงเกินไป ทางกองทุนก็สามารถปรับน้ำหนักพอร์ตมาลงในหุ้นเอเชียหรือจีนเพิ่มขึ้นได้
ทำให้เห็นว่า B-FUTURE นั้นเป็นกองทุนที่สามารถทยอยสะสมเข้าได้เรื่อย ๆ และเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลามาก แต่อยากลงทุนในหุ้นแห่งอนาคต
สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุน จากหุ้นในสหรัฐอเมริกา หรือหุ้นใน Theme อนาคต
ทั้งกองทุน B-USALPHA และ B-FUTURE ก็ยังเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทน ได้โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล พร้อมคอยปรับพอร์ตการลงทุนให้ในระยะยาว ซึ่งการใช้กลยุทธ์ DCA ทยอยลงทุนทุกเดือนก็เป็นวิธีการที่น่าสนใจ
คำเตือน
การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้นผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
digital technology คือ 在 Facebook 的最讚貼文
BlackRock ETFs hold $384 million of shares in Bitcoin mining firms
กองทุน BlackRock ทุ่มทุน! เกือบ 400 ล้านเหรียญ ในหุ้นเหมืองขุด Bitcoin !!
By SAMUEL HAIG
จากเอกสารที่ยื่นต่อ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า BlackRock ได้ลงทุนเกือบ 400 ล้านดอลลาร์ในหุ้น Riot Blockchain และ Marathon Digital Holdings
BlackRock เป็นผู้จัดการกองทุนข้ามชาติ มีมูลค่ากว่า 9 ล้านล้านเหรียญ ได้เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำการลงทุน ในบริษัทขุด Bitcoin ( BTC ) ชั้นนำ 2 แห่ง ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
การยื่นข้อมูลต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อเมริกา ข้อมูลจาก Forbes แสดงให้เห็นว่า BlackRock ถือหุ้น 6.71% ใน Marathon Digital Holdings และ 6.61% ของ Riot Blockchain
การลงทุนโดยรวม มีมูลค่าเกือบ 384 ล้านดอลลาร์ โดย BlackRock ได้ซื้อหุ้น Marathon มูลค่าเกือบ 207 ล้านดอลลาร์ และหุ้นของ Riot มูลค่า 176 ล้านดอลลาร์
ตามข้อมูลของ ETF.com iShares Russell 2000 ETF ของ BlackRock ได้ถือหุ้นใน Marathonและ Riot มากกว่า กองทุน ETF อื่น ๆ ในขณะที่ iShares Russell 2000 Value ETF อยู่ในอันดับที่สาม ของ ranks
นี่ไม่ใช่การลงทุนครั้งแรกของ BlackRock ในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยบริษัทได้ยื่นคำร้องต่อ SEC ในเดือนมกราคม สำหรับกองทุนสองแห่ง เพื่อ Bitcoin futures ก่อนที่จะเปิดเผยในเดือนเมษายนว่า BlackRock Global Allocation Fund ได้ ซื้อ 37 BTC เป็น futures contracts จาก Chicago Mercantile Exchange
หุ้นการขุด Bitcoin กลายเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ ราคา BTC เพิ่มขึ้นกว่า 288% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา หุ้นของ Marathon เพิ่มขึ้น 754% และ Riot ก็เพิ่มขึ้น 848%
Fidelity Group และ Vanguard Group เป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ ที่ได้รับการเปิดเผยอย่างมีนัยสำคัญต่อภาคการขุด BTC ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
โดย ETF Total Stock Market ของ Vanguard และ information Technology ETF อยู่ในอันดับที่ 4 และ 5 ของกองทุนที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 และ 5 จากการถือครอง RIOT
ขณะที่ Small-Cap ETF และ Small-Cap Growth ETF ของบริษัท คือ ผู้ถือ ETF รายใหญ่อันดับ 4 และ 5 ของหุ้น MARA ตาม ETF.com
สำหรับนักลงทุนที่ สนใจ ข้อมูลการลงทุนเชิงลึก
จากบทวิเคราะห์ระดับโลก รวมหลักแสนต่อปี
สามารถ สมัครเข้าดูได้ที่ห้องเรียนวงในครับ
สนใจ คอมเม้นใต้บทความได้เลย
--------------------------------
แอดปลา
digital technology คือ 在 iT24Hrs Youtube 的最佳貼文
AI University หนึ่งในแผนงานของ depa ในปี 2564 นอกจากนี้ยังมีอีกหลายแผนงาน ไม่ว่าจะเป็น คูปองดิจิทัล Drone University Smart City และอื่นๆอีกมากมายที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชน
เราคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกๆการใช้ชีวิตของเรา ฉะนั้นมาดูกันเลยว่า ปี 2564 ประเทศไทยจะขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ไปในทิศทางไหน ทั้งภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม ชุมชน และสร้างระบบนิเวศดิจิทัล
รายการดิจิทัลไทยแลนด์ตอนนี้ ดร. เอิ้น ปานระพี ได้มีโอกาสมาร่วมงาน depa 2021 & beyond ผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ก็คือสื่อมวลชนจากหลายสำนัก มาฟังว่า ปี 2564 คนไทยทั้งประเทศ จะได้เห็นอะไรกันบ้าง
ภายในงาน ผศ. ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ได้กล่าวทักทายพร้อมเผย ว่าในปี 2564 depa จะสานต่อการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลด้วยการยกระดับกำลังคนผ่านการให้ความรู้ด้านดิจิทัล บนแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ดำเนินงานร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งประชาชนไม่ว่าจะรุ่นไหน จะเป็นเยาวชน คนทำงาน ผู้สูงวัย ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส จะได้รับการพัฒนาทักษะดิจิทัลที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพด้วย และยังมีอีกหลากหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับทั้งการเกษตร, อุตสาหกรรม, ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในเมือง, startup, การค้าขาย, การท่องเที่ยว เพื่อการผลักดันให้เศรษฐกิจและชีวิตของเราดีขึ้น รวมถึงจะมีแผนงานทำมในส่วน ของ AI University , Drone University, คูปองดิจิทัล Transformation อีกด้วย
นอกจากนี้ ดร.เอิ้น ยังได้มีโอกาสสัมภาษณ์พูดคุยกับท่านรอง ฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มงานเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ถึงเรื่องแผนงาน คูปองดิทิล Transformation เพื่อให้เข้าถึง Digital Technology ได้ง่ายขึ้น ด้วยการช้อปกับ Technology Provider , AI University , Drone University. ที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และ ดร. ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มกลุ่มโครงการพิเศษและศูนย์พัฒนาดิจิทัลและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ถึงแผนงานต่างๆที่จะเกิดขึ้นในปี 2564 และเป็นประโยชน์กับประชาชน ทั้งในส่วนของโครงการ Smart City ที่จะขยายไปสู่อีกหลายๆเมืองในประเทศไทย นอกจากนี้ยังจะมีการจัดตั้ง ambassador ขึ้นเพื่อมาเป็นคนกลางที่เชื่อมระหว่างคนที่รู้เทคโนโลยีกับคนที่บริหารเมืองอีกด้วย
ติดตามรายละเอียดกันต่อได้ในรายการ Digital Thailand ตอนนี้เลย
.
ออกอากาศวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม 2563 ในรายการ Digital Thailand
ออกอากาศ ทุกวันเสาร์ ทางช่อง 3 กด 33 เวลา 4.40 น.- 5.05 น.
.
ติดตามรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
facebook.com/it24hrs
twitter.com/panraphee
twitter.com/ it24hrs
IG: panraphee
ติดต่อโฆษณา it24hrs@it24hrs.com โทร 0802345023
digital technology คือ 在 Human & Tech by May Youtube 的最讚貼文
มี podcast แล้วน้า https://www.podbean.com/media/share/pb-7zryw-d43c0e
--------------------------
Blockchain คือ การจัดเก็บข้อมูล (Database) แบบหนึ่ง ทำอะไรได้บ้าง
ช่อง Blackbox4.0 - https://www.youtube.com/channel/UC4KjoNiJOzP80Sa-FdNw2Sw
มาดูวิดีโอกันที่ https://goo.gl/EZvcyV
มาคุยกันต่อที่เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/HumanAndTechByMay/
และ กรุ๊ป https://www.facebook.com/groups/319013512295700/
Add LINE เพื่อรับสาระความรู้ฟรี ที่ช่อง Human and Tech
https://line.me/R/ti/p/%40fgk4074r
digital technology คือ 在 LDA World Youtube 的最佳解答
เมื่อนางฟ้าไอทีไม่มีอยู่จริง...
มีเพียง “กลุ่มคนธรรมดา” ที่อยากแบ่งปันความรู้ไอทีแบบเข้าใจง่าย ให้เข้าถึงได้สำหรับทุกคน ?
.
เฟื่องเชื่อในเรื่องของความเท่าเทียม เชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพที่สามารถทำอะไรก็ได้ ถ้ามี “ความพยายาม” มากพอ ไม่จำกัดแค่ผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก หรือ ผู้ใหญ่ จึงเป็นที่มาของก้าวสำคัญ LDA หรือ “Ladies of Digital Age”
.
เพราะปัจจุบัน ความรู้ = โอกาส พวกเราจึงอยากเป็นหนึ่งกระบอกเสียงที่คอยบอกเล่าความรู้ที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่ในฐานะกูรู แต่ในฐานะตัวแทนคนธรรมดา ที่อยากใช้ชีวิตบนโลกดิจิทัลได้อย่างมีความสุขและสนุกไปกับมัน
.
แม้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ แต่เฟื่องเชื่อว่า LDA จะช่วยเป็นพลังในการติดอาวุธความรู้ โดยเฉพาะเรื่องไอทีให้กับเพื่อนๆทุกคนได้
.
ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่ #LDAWORLD ?
ฝากโปรเจกต์นี้ไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ ??☺️ พวกเราตั้งใจกันมากๆค่า
-------------------------------------------------------------
ABOUT ME
Instagram: http://www.instagram.com/faunglada
Facebook: http://www.facebook.com/LDAworld
Twitter: http://twitter.com/faunglada
Blog: http://www.ldaworld.com
ติดต่องาน/ลงโฆษณา : contact@flourish.co.th
โทร : 086-363-6683