โอ้เพิ่งเห็นว่าpostนี้มีคนถูกใจเกือบ100,000คน
นี่คือความในใจ
ที่ลูกค้า
ไม่เคยบอกคนขาย
เอามาย้อนให้ดูกันอีกที
"หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องชาวเพจที่
ค้าขาย และ ทำธุรกิจทุกคน"
และคนที่กำลังจะเริ่มค้าขายครับ
ถ้าชอบก็บอกด้วยนะครับ
จะเอามาเขียนหรือทำเป็นVdoให้อีกในอนาคต^_
#A10เอเท็น
#iClassUniversity
#สังคมแห่งความเป็นไปได้
“วันนี้ ที่คุณขายไม่ได้
เพราะว่า คุณได้พูด
ได้คุยกับเค้า จนหมดแล้ว
แล้วเค้าปฎิเสธคุณ!”
หรือว่า...
“จริงๆแล้ว
เค้าแทบไม่ฟัง
หรือสนใจ
ในสิ่งที่คุณจะพูดเลย”
ผมถามผู้บริหารทีมขายท่านนึง
ซึ่งติดต่อทีมงาน
มาpackage Private Consult
1ชม. กับผม
เคสนี้เค้ายินให้ผมนำมาเล่าได้
เพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกคน
แต่ตามอุดมคติของผมคือ
เวลานำเรื่องมาแชร์
ผมจะไม่บอกชื่อหรือบริษัทของเค้า
ปกติตอนConsult
ผมจะเป็นคนที่ฮุกเข้าเรื่องทันที
เพื่อให้ประหยัดเวลา
และให้เค้าไปตอบโจทย์ได้เร็วที่สุด
มากที่สุด
ผมดูข้อมูลที่เค้าส่งมาให้
เค้าเป็นผู้บริหาร
ของบริษัทแห่งหนึ่ง
งานของเค้า
องค์กรของเค้าเป็นไปได้ด้วยดี
ไม่มีปัญหาอะไร
แต่เค้าอยากทำให้นักขาย
พัฒนาศักยภาพเพิ่มมากขึ้น
ทันต่อโลกมากขึ้น
และได้ใช้เทคนิคใหม่ๆ
ทำให้เข้าใจและเปิดใจลูกค้าได้มากขึ้น
ผมนึกชมเค้าในใจ
ว่าทีมนี้ต้องไปไกลที่มีผู้บริหารแบบนี้
เพราะสมัยที่ผมทำงานขาย
ไม่มีเลย
มีแต่อบรมเป็นพิธี
และเวลายอดตก
เค้าก็จะให้ HR
หาคนมาMotivation
บิ้วให้เกิดกำลังใจฮึกเหิม
ซึ่งนั่นมันทำให้มีกำลังผ่านวันนั้นไปได้
แต่จริงๆท้ายที่สุด
มันไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ
พอขายไม่ได้
ลูกค้าปฏิเสธบ่อยๆ
ก็กลับมาท้อมาหงอยกันอีก
คุณที่อ่านอยู่คงเห็นภาพตามนะครับ
ปัญหาไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ
เหมือนคุณปวดฟันอยู่
ปวดมากๆนอนก็ปวดตื่นมาก็ปวด
ทานข้าวก็ปวด
ไปไหนก็ปวด
แล้วพี่รูมเมทของคุณ
ให้กำลังใจคุณ
แล้วให้พาราเซตามอลคุณกิน
พอหมดฤทธิ์ยา
ก็ปวดอีก
แล้วก็กินยาอีก
จริงที่ยามันทำให้หายปวด
ลืมไปชั่วขณะ
แต่สักพักมันก็ต้องกลับมาปวดอีก
เมื่อปัญหาที่แท้จริงไม่ได้ถูกแก้
การขายก็เช่นกัน
หลายองค์กรรวมที่ผมเคยอยู่
เวลานักขายๆไม่ได้
ก็แก้ปัญหาด้วยยาแก้ปวด
แต่ไม่ได้Focus
ที่ต้นเหตุเลย
คือพัฒนาทักษะการขาย
ผมกล้าพูดว่า
ที่ผมอยู่ได้โตได้
เพราะผมศึกษาเพิ่มเติมเองจากความภายนอก
และศึกษาจากคนที่เก่งๆสำเร็จในงาน
ผมชมผู้บริหารท่านนี้ในใจ
ที่เค้าที่เค้าเข้าใจโลกแห่งความจริง
ว่าอยากขายดี
ไม่ใช่ให้ยาแก้ปวด
แต่มันต้องแก้ที่ต้นเหตุ
ผมถามเค้าว่ารู้จักผมได้ยังไง
เค้าบอกHRบริษัทเค้า
เป็นคนแนะนำ
เพราะติดตามเรื่องการขาย
เค้าบอกเค้ารู้หมดแหละ
เทคนิคปิดการขาย
หรือวิธี Selling Cycloneของคุณเอ
หลายครั้งHRก็เอามาให้ผมดู
และผมก็เอาไปใช้กับทีม
และมันเปลี่ยนเลย
นักขายไม่ได้มีแค่กำลังใจ
ไม่ได้อยู่ได้ด้วยความหวัง
แต่หลังผมสอนเค้า
เค้าอยู่ได้ด้วยความเชื่อ
ว่าตัวเองสามารถที่จะขายดีได้
จนผมบอกว่า
ติดต่อ
Consultคุณเอให้หน่อย(เค้าพูดพร้อมหัวเราะ)
พอผมฟังเลยรู้สึกไม่แปลกใจที่
ทำไมทีมเค้าถึงโต
เพราะHRองค์กรนี่ใส่ใจจริงๆ
ผมฮุกเข้าเรื่องทันที
ว่าวันนี้ต้องการให้ผมเจาะเรื่องไหนให้
เพราะดูจากยอดก็โตแล้ว
เค้าบอก2เรื่อง
คือการทำออนไลน์
กับการออกบูท
แล้วปิดการขายไม่ได้
แต่เรื่องออนไลน์
ขอเป็นคราวหน้าดีกว่า
เดี๋ยวผมขอคิวคุณเออีกที(เค้าพูด)
ผมอยากได้เรื่องออกบูท
มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ลูกค้าปฏิเสธ
ปกติออกผมเช่าบูทตามงาน
ออกบูทตามโรงพยาบาล
ผมพูดว่าถูกแล้วนี่ครับ
เอาตัวไปอยู่ในที่ๆ
มีลูกค้าต้องการ
คนมาโรงพยาบาล
เพราะป่วย
เค้าตระหนักแน่นอนว่า
ประกันสำคัญ
ใช่ครับคุณเอ
คนที่ป่วย
หรือป่วยหนัก
มีเคสในอดีตจนทำประกันยาก
มักเข้ามาหาเราเอง
แต่ก็ต้องยอมรับว่าทำยาก
แต่เราก็ดูแลช่วยเต็มที่
แต่หลายเคสก็ต้องพูดความจริงกับเค้า
ว่ามันทำไม่ได้
แต่เคสที่ยังไม่มีปัญหา
ที่ลึกๆสนใจ
แต่เวลานักขายไปขาย
แล้วมักจะโดนปฏิเสธตลอด
ผมรู้ว่าประกันมันช่วยเค้าได้
ในวันที่มันเกิดเรื่องจริงๆ
แต่ก็เกิน95%
พอเข้าไปคุยลูกค้า
เหมือนจะสนใจ
แต่สุดท้ายก็ถูกปฏิเสธตลอด
ผมคิดว่ามันจะทำยังไงให้ดีขึ้นได้(เค้าถาม)
ผมคิดอยู่ชั่วครู
มองถึงเหตุการณ์ที่เค้าเจอ
และมองกลับมาที่ประสบการณ์ผม
ผมยิงคำถามสำคัญไปหาเค้าว่า.....
“1.วันนี้ ที่ทีมคุณขายไม่ได้
เพราะว่า ทีมคุณได้ พูด
ได้คุยกับเค้า จนหมดแล้ว
แล้ว เค้าปฎิเสธ”
หรือ ว่า...
“2.เค้าแทบไม่ฟัง
หรือสนใจ
ในสิ่งที่ทีมคุณจะพูดเลย”
เค้าเงียบไปราว10วิ
ก่อนพูดออกมาว่า....
ผมคิดดูแล้ว
จริงครับ
ข้อ2
ลูกค้าไม่สนใจในสิ่งที่เราพูดเลย
หรือฟังก็สุดท้ายปฏิเสธ(เค้าพูด)
เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ(ผมถาม)
(เค้าพยักหน้าในvdocall)
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับทีมคุณ
ไม่ใช่ปิดการขายไม่ได้
แต่จริงๆคือ
"ทีมเราเปิดการขายไม่ได้เลยต่างหาก"
"ลูกค้าไม่เปิดใจที่จะฟังแต่แรก"
"เลยปฏิเสธหรือฟังเป็นพิธีแล้วรอปฏิเสธ"
โห ใช่ครับ
คุณเออ่านเกมส์ขาดมาก(เค้าพูด)
จริงๆครับ
ปัญหาคือไม่ใช่ปิดการขาย
แต่เป็นเพราะ
เราเปิดใจเค้าไม่ได้จริงๆ(เค้าพูด)
ขอบคุณมากครับ(เค้าพูด)
แล้วกรณีแบบนี้
ผมจะเปิดใจเค้าได้ยังไง?(เค้าถามต่อ)
ผมนึกสมัยผมขายรถ
แล้วพยามแจกโบรชัวร์ตามห้าง
แล้วลูกค้ากลัว
ลูกค้าหนี
เหมือนผมเป็นแมลงวันไปตอมเค้า
แล้วเค้าพยามหนี
แต่สุดท้ายผมเปลี่ยนสถานการณ์ได้
กลายเป็นคนที่มีลูกค้าเค้ามาคุยด้วยมากที่สุด
ซึ่งนั่นทำให้ผมมีโอกาสที่จะปิดมากกว่าคนอื่น
ผมบอกเค้าไปว่า
ถ้าผมบอกไป
จะทำเลยไหมครับ?
มันอาจจะขัดใจและไม่ค่อยมีใครทำ
เค้าบอกยินดีมาก!
ผมบอกเค้าว่า...
โอเค!
เราจะเปลี่ยนทีมเราจากแมลงวัน
เป็นเกสรดอกไม้
เค้ายิ้มตลกที่ผมพูด
(ผมก็นึกสดๆเลยเปรียบแบบนั้น)
(ผมก็หัวเราะ)
เค้าบอกไม่เป็นไรครับ
และเค้าขำ
แล้วพูดว่าจริง
เราขายกันแบบแมลงวัน
ไล่ตอมใครๆก็หนี(แล้วเค้าหัวเราะลั่น)
แล้วเราจะเป็นเกสรได้ยังไงครับ?
(เค้าถามผม)
เราก็ต้องโชว์น้ำหวาน
ให้เค้าเห็น
หรือส่งกลิ่นที่เค้าต้องการ
ให้ดึงดูดเค้าเข้ามา
(ต้องบอกก่อนนะครับ
ผมไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบ
ลูกค้าเป็นผีเสื้อ
หรือแมลงวันอะไรนะครับ
มันเป็นการยกตัวอย่างให้เห็นภาพ)
(ต้องขอโทษทุกคนที่อ่านนะครับ
ผมไม่ได้มีเจตนาจะสื่อในทางไม่สมควร
แต่ผมอยากคงภาษาที่คุยในวันนั้น
เพื่ออรรถรสในการอ่านหรือรับฟัง
ให้เป็นออริจินัลที่สุด
หวังว่าคงเข้าใจและไม่โกรธนะครับ)
(เค้าทำหน้านึกตาม)
ตอนนี้ถูกแล้วที่ไปตั้งที่ รพ.
ถูกแล้ว...
ที่คุณไปตั้งบูท
ในที่ๆมีผีเสื้อ
(มีลูกค้า)ที่ต้องการสินค้าคุณที่สุด
ถือว่าเป็นที่รวมคนที่ต้องการ
สิ่งที่คุณขายมากที่สุด
คุณว่าจริงๆคน
ที่มาโรงพยาบาลที่มาเยี่ยมพ่อแม่พี่น้องญาติ
หรือแม่กระทั่งตัวเค้าเองที่ป่วย
ที่เจอปัญหาแล้ว
คุณว่าเกิน50%
เค้าตระหนัก
และเค้าอยากทำประกันไหม?
เค้าพยักหน้าแล้วบอกเกินแน่นอนครับ
ประกันเป็นสิ่งที่
คนจะตระหนัก
เวลาที่เจอปัญหาแล้ว(เค้าตอบ)
ผมถามต่อว่า...
คุณว่าลึกๆเค้าอยากเดินมาสอบถามไหม?
ครับแน่นอน!
ลึกๆต้องอยากถาม(เค้าตอบ)
ผมถาม...
แล้วทำไม
เค้าถึงไม่มาถามเรา?
(เค้าทำหน้านึก)
ผมพูดต่อว่า...
แล้วเวลาคุณเห็นคนออกบูท
ตามห้าง
แล้วมันเป็นของที่คุณสนใจนะ
แต่มีเหตุอะไรที่คุณไม่เดินเข้าไป
หรือเดินเลี่ยง?
เพราะกลัวถูกขาย?(ผมถาม)
ใช่ครับ(เค้าตอบ)
เพราะกลัวถูกบีบ?
ใช่ครับ(เค้าตอบ)
อึดอัดมากๆครับ
เวลาไปตามห้างแล้วเจอแบบนี้
ผมเคยจะสนใจจะสมัคร
โปรแกรมฟิตหุ่น
แต่เข้าไปที
โดนรุมบีบจนเหนื่อย
ไม่อยากเข้าอีกเลย
ตอนแรกเหมือนจะฟัง
ปัญหาผมนะ
แต่ไม่เลย
หาจังหวะขายอย่างเดียว(เค้าพูดระบายออกมา)
ผมถามเค้ากลับ
แล้ววันนี้บูทของคุณแตกต่าง
จากบูทนั้นไหม?
ไม่เลยครับ(เค้าหัวเราะ)
เข้าใจแล้วใช่ไหม?
ว่า....
ทำไมคนที่สนใจจริงๆ
อยากได้
แต่ไม่ยอมเข้ามาหาคุณ(ผมถาม)
เข้าใจ100%เลยครับ(เค้าตอบ)
1.
ผมถามกลับ
แล้วถ้าบูทนั้น
ไม่ขายล่ะ?
ถ้าบูทนั้น
เขียนกระกาศว่า
ปรึกษาเช็คสุขภาพก่อนการออกำลังกาย
วัดไขมัน
วัดมวลรวมฟรี
แล้วแจกผลให้กับทุกคน
คุณเห็นคนต่อแถวอยู่
คุณสนใจมากขึ้นไหม?
คุณอยากไปต่อแถวไหม?
สนใจแน่นอนครับ(เค้าตอบ)
เห็นอะไรไหม?(ผมถาม)
เกสรครับ!!(เค้าตอบพร้อมหัวเราะ)
ได้ผลกับคุณไหม?
ได้ครับ!(เค้าตอบ)
2.
แล้วถ้าคุณเข้าไปวัดแล้ว
เค้าให้คำปรึกษาอย่างดี
ถามประสบการณ์ในการออกกำลังกายคุณ
ถามอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อคุณ
อาการปวดเวลาออกำลังกาย
ถามทุกอย่าง
ที่เป็นปัญหาของคุณ
ฟังคุณ และแนะนำคุณ
ว่าต่อไปนี้ควรออกยังไง
กินยังไง
คุณhappyไหม?
นี่เป็นสิ่งที่อยากให้เกิดกับ
ทุกร้านทุกที่
ที่ผมไปเลยครับ
นี่คือความจริงใจ!(เค้าตอบ)
3.แล้วถ้าหลังจากเสร็จแล้ว
เค้าให้ใบผลลัพธ์คุณพร้อมวิธีออกเองที่บ้าน
และ
เสนอให้ไปวัดทดลองแบบFull
หรือใช้ฟรี1ครั้งที่ฟิตเนสเค้า
คุณจะเอาไหมครับ?
เอาสิครับ(เค้าตอบ)
4.และถ้าเค้า
ไม่ขายอะไรเลยและเสนอว่า
ถ้ามาหาให้มาเจอเค้าได้เลย
จะแนะนำเทรนเนอร์ให้
แล้วแลกเบอร์กันไว้
คุณยินดีให้ไหม?
ยินดีครับเพราะผมต้องการอยู่แล้ว
(เค้าหัวเราะ)
5.ถามตรงๆนะครับ
ถ้าคุณเจอแบบนี้
คิดว่ากี่%ที่คุณจะจบที่นี่
80-90%แน่นอน(เค้าตอบ)
----
เห็นอะไรแล้วใช่ไหมครับ?(ผมถาม)
มากครับ(เค้าตอบ)
ได้ไอเดียไหมครับ?
สว่างมากครับ!!(เค้าตอบพร้อมหัวเราะ)
(ผมอยากรู้ว่าเค้าจะ
เค้าจะเข้าใจ
ในสิ่งที่ผมสื่อไหม
เลยไม่อยากให้เค้าหลุดประเด็นสำคัญ)
เลยถามกลับไปว่า
โอเคได้ไอเดียเนอะ?
แต่ถ้ากลับกัน...
ฟิตเนสนั้น
เค้าทำข้อ1คือ
เขียนป้ายเชิญเข้าไปวัดมวล
หรือปรึกษาฟรี
อันนี้ได้ผลใช่ไหมครับ?
ใช่ครับเป็นเกสร
ที่ทำให้ผมอยากเข้าไป(เค้าตอบ)
ผมถามต่อ....
แต่ถ้าขณะวัด
เข้าเสนอpacketตลอดเวลา
หรือคอยถามก็จริง
แต่ไม่ค่อยฟังที่คุณจะพูด
แล้วก็พยามจะปิดคุณให้ได้
คุณคิดว่าไง?
ผมจะไม่สมัครแน่นอนครับ
และอย่างมากก็ฟังเป็นมารยาท
มันเหมือนถูกหลอกไปขาย
ผมจะไม่มีทาง ผมจะ....
#^¥>|£~£|€|!.€]
(เค้าพูดอย่างเมามัน)
ผมรอให้เค้าหยุดพูด
แล้วถามว่า....
เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ?
ว่าลูกค้าจริงเค้าต้องการ
แต่เค้าต้องการแบบไหน?
และอยากได้การtake careอะไร?
เค้าพูดขึ้นมาว่า
ด้วยภาษาเค้าว่า...
"สว่างครับวันนี้"
ผมพูดต่อว่า....
ถ้าวันนี้เราพาแฟนไปฝากท้องที่รพ.
แล้วเห็นบูทนึงเขียนว่า
"ให้คำปรึกษาการทำประกันเด็กแรกเกิด"
เป็นไปได้ไหมที่เราจะไปขอข้อมูล?
เป็นไปได้สูงครับ(เค้าตอบ)
แล้วเป็นได้ไหม?
ที่เราจะเข้าบูทนี้มากกว่า
บูทที่รับเขียนชื่อบริษัท
ดื้อๆแล้วพนักงานวิ่งชาร์ทเรา?
แน่นอนครับ
จะเลี่ยงบูทนั้นเด็ดขาด
แต่มาเข้าบูทนี้ครับ
(เค้าตอบหัวเราะ)
และผมรู้ไอเดียจากคุณเอ
ในการadaptใช้แล้วครับ!(เค้าตอบอีกที)
เค้าพูดสรุปที่เค้าจดขณะConsult
ให้ผมฟังในภาษาเค้า
1.จริงๆลูกค้าที่ต้องการมีอยู่แล้ว
ถ้าเราเปิดบูทถูกที่
2.จริงๆที่ผ่านมา
ไม่ใช่เราปิดการขายไม่ได้
***"แต่เราไม่เคยเปิดใจเค้าได้เลยมากกว่า"***
3.เราขายแบบแมลงวันตลอด
สร้างความรำคาญให้ลูกค้า
4.และหลังจากนั้น
เราจะเปลี่ยนเป็น
สร้างเกสรดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาแทน
5.แต่เราทำแบบนั้น
ไม่ใช่เพื่อล่อมาขายเด็ดขายอันนั้นผิดมาก
ไม่ใช่ทำดีเพื่อขาย
จะเสนอทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเลย
แต่เราฟังเค้าจริงๆ
ถามเค้าจริงๆ
และดูว่าเค้าติดอะไรกังวลอะไร
ให้คำปรึกษาเค้าจริงๆ
จากใจและช่วยเหลือเค้าจริงๆ
6.เมื่อลูกค้าเค้าแก้สิ่งที่เค้าสงสัย
หรือสิ่งที่เค้าติดได้
และเค้าเปิดใจมาฟังแต่แรก
ไม่ได้ถูกบังคับมาฝืนฟังแบบเมื่อก่อน
และเราช่วยเค้าจริงๆจากใจ
คิดกลับกัน
ถ้าเป็นเราเองก็เปิดใจ
7.นึกถึงเรื่องฟิตเนสคือ
แม้เราจะไม่ตัดสินใจช่วงนั้น
แต่ท้ายสุดก็พร้อมไปจะไปต่อกับ
คนแบบนี้
ที่เค้าใส่ใจเราจริงๆ
หรือ อยากแนะนำคนดีๆรอบตัวเรา
ให้ไปหาเค้าด้วย
ซึ่งเค้าจะขอเบอร์ขอไลน์
เพื่อfollowเรา
เราก็ยินดี
(เค้าสรุปที่จด)
ได้ไอเดียไหมครับ?(ผมถาม)
เค้าบอก...
(มากครับ)
แล้วก็ขอบคุณผม
แล้วก็ก่อนทิ้งท้ายเค้าพูด
"เดี๋ยวผมจะเปลี่ยนทีมขายแมลงวัน
ให้กลายเป็นเกสรดอกไม้"
"เค้าก็หัวเราะ"
“ผมก็หัวเราะ ในความอารมณขันของเค้า”
-------
3เดือนต่อมา
เค้าติดต่อเข้ามาPrivate consultอีก
เรื่องขายรายใหญ่
ผมเลยถามว่าอ่าวเรื่องบูทละ
เป็นไงบ้าง?
เค้าตอบกลับมาว่า
สุดๆครับ
จริงๆวันนี้อยากมาขอบคุณด้วยแหละ
ตอนนี้เป็นไปได้ดีเลยครับ
เปลี่ยนไปเยอะมาก
ลูกทีมผมมีไฟขึ้นเยอะ
เราไปเปิดบูทแต่ละครั้ง
ไม่ใช่เพื่อขาย!
แต่เราไปเพื่อเชิญคนที่สนใจ
ให้เปิดโอกาสเข้ามาปรึกษาเรา
รู้จักเรา
ได้ฟังเค้า รับรู้ปัญหาของเค้า
ไม่มีการบีบเหมือนเมื่อก่อน
แล้วสุดท้ายแม้ว่า
จะไม่ได้ปิดการขายได้
แต่จากการเป็นเกสร
ก็ทำให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาเอง
มากกว่าเดิม3-4เท่าหรือมากกว่านั้น
ในบางวัน
แม้จะไม่มีการปิดการขายเลย
แบบเมื่อก่อน
ตอนแรกรู้สึกไม่ดีมากๆ
ที่บูทไม่ยอดเลย
แต่เชื่อคุณเอ
ลองดูก่อน!
เพราะทำแบบเดิม
ก็ไม่ค่อยได้ผล
และลูกน้องเค้าก็เหนื่อยท้อ
กับการต้องถูกปฏิเสธ
ก็เลยลุยเต็มที่
ผลคือ....
ลูกค้าหลายคนจากที่เข้ามา
แล้วเราทำการFollow
ค่อยทยอยกลับมาซื้อตลอดเวลา!
ถ้านับจริงๆถือว่าโตขึ้น
ซึ่งยอดจากบูทโตขึ้น3-4เท่าตัว
ใน3เดือนที่ผ่านมา
แล้วผมเชื่อว่ายังมีลูกค้าที่คาดว่าจะซื้อ
ที่อยู่ในมือตามมาอีกมาก
ขอบคุณที่ช่วยผมเรื่องนี้ครับ!(เค้าพูด)
และขอบคุณแทนลูกน้องผม
ที่เค้าได้มีความสุข
กับการแบบนี้
เค้าสนุกและ
ที่รู้สึกได้ช่วยคนจริงๆ
ไม่ใช่คอยจ้องขาย
จากเดิมที่มีบางคนหมดไฟ
กลับทำให้ลูกน้องผมหลายคน
ศึกษาproductตัวเองเพิ่มเติม
เพื่อจะได้ช่วยลูกค้าได้ลึกขึ้นครับ!
(ผมเห็นเค้าพูดดีใจ
ผมก็ตื่นตันกับเค้า
และดีใจแทนลูกน้อง
ที่มีผู้นำแบบนี้)
ผมตอบว่า
แต่มันต้องใช้เวลาเนอะเรื่องนี้
ผมว่าคุณเข้าใจ
เค้าตอบกลับมาว่า
ด้วยความยินดีครับ
ผมเห็นทิศทางที่ดี
ในช่วงที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัดแล้ว
ผมลุยเต็มที่แน่นอน
ขอบคุณมากๆที่บอกเคล็ดลับนี้กับผม
“นี่คือความในใจ
ที่ลูกค้า...
ไม่เคยบอกคนขาย”
“วันนี้ ที่คุณขายไม่ได้
เพราะว่า คุณได้พูด
ได้คุยกับเค้า จนหมดแล้ว
แล้วเค้าปฎิเสธคุณ!”
หรือว่า...
“จริงๆแล้ว
เค้าแทบไม่ฟัง
หรือสนใจ
ในสิ่งที่คุณจะพูดเลย”
วันนี้ผมรู้แล้วว่า
ลูกค้าต้องการอะไร!
คำนี้ที่คุณเอพูด
อยู่ในใจผมเสมอ(เค้าพูดทิ้งท้าย)
วันนี้ยาวหน่อยครับ
แต่ผมอยากให้ทุกคนได้อะไรจริงๆ
ไปใช้ได้จริงๆ
ที่มากกว่าแรงบันดาลใจ
ผมตั้งใจถ่ายทอดมาก
หวังว่านี่จะเป็นเทคนิคนึง
ที่ทำให้คุณเปิดใจลูกค้าได้มากขึ้น
และเพิ่มยอดของคุณให้มากขึ้นครับ
ผมA10(เอเท็น)
#iClassSalesUniversity
#สังคมแห่งความเป็นไปได้
------------
**ประกาศข่าว
พี่น้องที่ถามเรื่องprivate cosult(Vdo call)
ตอนนี้คิวเดือนก.ค.เต็มแล้วนะครับ
คิวต่อไปประมาณกลางๆเดือนส.ค.
ก็ลองสอบถามคิวอีกทีก่อนสมัครครับ
แต่ระหว่างนี้ใครที่รอไม่ไหว
หรือใครอยากจะไปต่อลงลึกในเรื่องการหาลูกค้าใหม่
แบบจริงจัง ไปกับผมในรูปแบบคลาส
ตอนนี้ผมเปิด Pre-order
เป็น1ในMaster Class ที่ผมภูมิใจ
และข้อมูลพวกนี้ผมเคยprivate
ให้กับคนที่จ่ายหลักแสนเข้ามาปรึกษา
แล้วได้ผล
iClass29-Opening Sales Secret
“เปิดการขาย เพิ่มรายได้200-400%”
ในนั้นจะรวบรวมเทคนิค
การขายที่ผมใช้มาตลอด10ปี
เน้นที่การหาลูกค้าใหม่
จะเริ่มหาลูกค้ายังไง?
จะเปิดใจลูกค้ายังไง?
ทำยังไงให้ลูกค้านึกถึงเราก่อนคนอื่น?
จนนำไปสู่การปิดการขายได้?
คลาสนี้ผมมั่นใจว่า
จะทำให้คุณหาลูกค้าเพิ่มได้อย่างน้อย200%
เพื่อโอกาสในการปิดการขายที่มากขึ้น
*วันนี้รับสมัครเป็นวันสุดท้าย
พี่น้องที่อยากลุย
สามารถสมัครเข้ามาจอยได้ทันทีที่ลิ้งค์ด้านล่าง
http://bit.ly/2IcMMNX
คลาสนี้ผมขอแนะนำเลยครับ
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過37萬的網紅iaumreview,也在其Youtube影片中提到,ถ้าเทียบความหรูหรา และคุณภาพที่มั่นใจได้ในวงการมือถือ คือ Apple วงการเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ก็ต้องยกตำแหน่งนี้ให้ Dyson ค่ะ วันนี้อุ้มขอเอา Dyson Cyclon...
「cyclone คือ」的推薦目錄:
- 關於cyclone คือ 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最讚貼文
- 關於cyclone คือ 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最佳貼文
- 關於cyclone คือ 在 Un+ Chirdpong: อั๋น เชิดพงษ์ iclass CEO Facebook 的最佳解答
- 關於cyclone คือ 在 iaumreview Youtube 的精選貼文
- 關於cyclone คือ 在 X Creator Youtube 的最讚貼文
cyclone คือ 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最佳貼文
โอ้Postนี้พีคมาก จนน่าตกใจ!!5,000กว่าLike ได้
ทั้งที่เป็นเรื่องการขาย(แสดงว่าใส่ใจเรื่องอนาคตกัน)
(อนาคตต้องเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดีแน่นอน)
มีพี่น้องที่ได้อ่านแล้ว
ส่วนใหญ่Commentแอบตั้งชื่อให้ว่า....
"เทคนิคการขายแบบเกสรดอกไม้"
55
#A10เอเท็น
#iClassSalesUniversity
#สังคมแห่งความเป็นไปได้
“วันนี้ ที่คุณขายไม่ได้
เพราะว่า คุณได้พูด
ได้คุยกับเค้า จนหมดแล้ว
แล้วเค้าปฎิเสธคุณ!”
หรือว่า...
“จริงๆแล้ว
เค้าแทบไม่ฟัง
หรือสนใจ
ในสิ่งที่คุณจะพูดเลย”
ผมถามผู้บริหารทีมขายท่านนึง
ซึ่งติดต่อทีมงาน
มาpackage Private Consult
1ชม. กับผม
เคสนี้เค้ายินให้ผมนำมาเล่าได้
เพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกคน
แต่ตามอุดมคติของผมคือ
เวลานำเรื่องมาแชร์
ผมจะไม่บอกชื่อหรือบริษัทของเค้า
ปกติตอนConsult
ผมจะเป็นคนที่ฮุกเข้าเรื่องทันที
เพื่อให้ประหยัดเวลา
และให้เค้าไปตอบโจทย์ได้เร็วที่สุด
มากที่สุด
ผมดูข้อมูลที่เค้าส่งมาให้
เค้าเป็นผู้บริหาร
ของบริษัทแห่งหนึ่ง
งานของเค้า
องค์กรของเค้าเป็นไปได้ด้วยดี
ไม่มีปัญหาอะไร
แต่เค้าอยากทำให้นักขาย
พัฒนาศักยภาพเพิ่มมากขึ้น
ทันต่อโลกมากขึ้น
และได้ใช้เทคนิคใหม่ๆ
ทำให้เข้าใจและเปิดใจลูกค้าได้มากขึ้น
ผมนึกชมเค้าในใจ
ว่าทีมนี้ต้องไปไกลที่มีผู้บริหารแบบนี้
เพราะสมัยที่ผมทำงานขาย
ไม่มีเลย
มีแต่อบรมเป็นพิธี
และเวลายอดตก
เค้าก็จะให้ HR
หาคนมาMotivation
บิ้วให้เกิดกำลังใจฮึกเหิม
ซึ่งนั่นมันทำให้มีกำลังผ่านวันนั้นไปได้
แต่จริงๆท้ายที่สุด
มันไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ
พอขายไม่ได้
ลูกค้าปฏิเสธบ่อยๆ
ก็กลับมาท้อมาหงอยกันอีก
คุณที่อ่านอยู่คงเห็นภาพตามนะครับ
ปัญหาไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ
เหมือนคุณปวดฟันอยู่
ปวดมากๆนอนก็ปวดตื่นมาก็ปวด
ทานข้าวก็ปวด
ไปไหนก็ปวด
แล้วพี่รูมเมทของคุณ
ให้กำลังใจคุณ
แล้วให้พาราเซตามอลคุณกิน
พอหมดฤทธิ์ยา
ก็ปวดอีก
แล้วก็กินยาอีก
จริงที่ยามันทำให้หายปวด
ลืมไปชั่วขณะ
แต่สักพักมันก็ต้องกลับมาปวดอีก
เมื่อปัญหาที่แท้จริงไม่ได้ถูกแก้
การขายก็เช่นกัน
หลายองค์กรรวมที่ผมเคยอยู่
เวลานักขายๆไม่ได้
ก็แก้ปัญหาด้วยยาแก้ปวด
แต่ไม่ได้Focus
ที่ต้นเหตุเลย
คือพัฒนาทักษะการขาย
ผมกล้าพูดว่า
ที่ผมอยู่ได้โตได้
เพราะผมศึกษาเพิ่มเติมเองจากความภายนอก
และศึกษาจากคนที่เก่งๆสำเร็จในงาน
ผมชมผู้บริหารท่านนี้ในใจ
ที่เค้าที่เค้าเข้าใจโลกแห่งความจริง
ว่าอยากขายดี
ไม่ใช่ให้ยาแก้ปวด
แต่มันต้องแก้ที่ต้นเหตุ
ผมถามเค้าว่ารู้จักผมได้ยังไง
เค้าบอกHRบริษัทเค้า
เป็นคนแนะนำ
เพราะติดตามเรื่องการขาย
เค้าบอกเค้ารู้หมดแหละ
เทคนิคปิดการขาย
หรือวิธี Selling Cycloneของคุณเอ
หลายครั้งHRก็เอามาให้ผมดู
และผมก็เอาไปใช้กับทีม
และมันเปลี่ยนเลย
นักขายไม่ได้มีแค่กำลังใจ
ไม่ได้อยู่ได้ด้วยความหวัง
แต่หลังผมสอนเค้า
เค้าอยู่ได้ด้วยความเชื่อ
ว่าตัวเองสามารถที่จะขายดีได้
จนผมบอกว่า
ติดต่อ
Consultคุณเอให้หน่อย(เค้าพูดพร้อมหัวเราะ)
พอผมฟังเลยรู้สึกไม่แปลกใจที่
ทำไมทีมเค้าถึงโต
เพราะHRองค์กรนี่ใส่ใจจริงๆ
ผมฮุกเข้าเรื่องทันที
ว่าวันนี้ต้องการให้ผมเจาะเรื่องไหนให้
เพราะดูจากยอดก็โตแล้ว
เค้าบอก2เรื่อง
คือการทำออนไลน์
กับการออกบูท
แล้วปิดการขายไม่ได้
แต่เรื่องออนไลน์
ขอเป็นคราวหน้าดีกว่า
เดี๋ยวผมขอคิวคุณเออีกที(เค้าพูด)
ผมอยากได้เรื่องออกบูท
มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ลูกค้าปฏิเสธ
ปกติออกผมเช่าบูทตามงาน
ออกบูทตามโรงพยาบาล
ผมพูดว่าถูกแล้วนี่ครับ
เอาตัวไปอยู่ในที่ๆ
มีลูกค้าต้องการ
คนมาโรงพยาบาล
เพราะป่วย
เค้าตระหนักแน่นอนว่า
ประกันสำคัญ
ใช่ครับคุณเอ
คนที่ป่วย
หรือป่วยหนัก
มีเคสในอดีตจนทำประกันยาก
มักเข้ามาหาเราเอง
แต่ก็ต้องยอมรับว่าทำยาก
แต่เราก็ดูแลช่วยเต็มที่
แต่หลายเคสก็ต้องพูดความจริงกับเค้า
ว่ามันทำไม่ได้
แต่เคสที่ยังไม่มีปัญหา
ที่ลึกๆสนใจ
แต่เวลานักขายไปขาย
แล้วมักจะโดนปฏิเสธตลอด
ผมรู้ว่าประกันมันช่วยเค้าได้
ในวันที่มันเกิดเรื่องจริงๆ
แต่ก็เกิน95%
พอเข้าไปคุยลูกค้า
เหมือนจะสนใจ
แต่สุดท้ายก็ถูกปฏิเสธตลอด
ผมคิดว่ามันจะทำยังไงให้ดีขึ้นได้(เค้าถาม)
ผมคิดอยู่ชั่วครู
มองถึงเหตุการณ์ที่เค้าเจอ
และมองกลับมาที่ประสบการณ์ผม
ผมยิงคำถามสำคัญไปหาเค้าว่า.....
“1.วันนี้ ที่ทีมคุณขายไม่ได้
เพราะว่า ทีมคุณได้ พูด
ได้คุยกับเค้า จนหมดแล้ว
แล้ว เค้าปฎิเสธ”
หรือ ว่า...
“2.เค้าแทบไม่ฟัง
หรือสนใจ
ในสิ่งที่ทีมคุณจะพูดเลย”
เค้าเงียบไปราว10วิ
ก่อนพูดออกมาว่า....
ผมคิดดูแล้ว
จริงครับ
ข้อ2
ลูกค้าไม่สนใจในสิ่งที่เราพูดเลย
หรือฟังก็สุดท้ายปฏิเสธ(เค้าพูด)
เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ(ผมถาม)
(เค้าพยักหน้าในvdocall)
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับทีมคุณ
ไม่ใช่ปิดการขายไม่ได้
แต่จริงๆคือ
"ทีมเราเปิดการขายไม่ได้เลยต่างหาก"
"ลูกค้าไม่เปิดใจที่จะฟังแต่แรก"
"เลยปฏิเสธหรือฟังเป็นพิธีแล้วรอปฏิเสธ"
โห ใช่ครับ
คุณเออ่านเกมส์ขาดมาก(เค้าพูด)
จริงๆครับ
ปัญหาคือไม่ใช่ปิดการขาย
แต่เป็นเพราะ
เราเปิดใจเค้าไม่ได้จริงๆ(เค้าพูด)
ขอบคุณมากครับ(เค้าพูด)
แล้วกรณีแบบนี้
ผมจะเปิดใจเค้าได้ยังไง?(เค้าถามต่อ)
ผมนึกสมัยผมขายรถ
แล้วพยามแจกโบรชัวร์ตามห้าง
แล้วลูกค้ากลัว
ลูกค้าหนี
เหมือนผมเป็นแมลงวันไปตอมเค้า
แล้วเค้าพยามหนี
แต่สุดท้ายผมเปลี่ยนสถานการณ์ได้
กลายเป็นคนที่มีลูกค้าเค้ามาคุยด้วยมากที่สุด
ซึ่งนั่นทำให้ผมมีโอกาสที่จะปิดมากกว่าคนอื่น
ผมบอกเค้าไปว่า
ถ้าผมบอกไป
จะทำเลยไหมครับ?
มันอาจจะขัดใจและไม่ค่อยมีใครทำ
เค้าบอกยินดีมาก!
ผมบอกเค้าว่า...
โอเค!
เราจะเปลี่ยนทีมเราจากแมลงวัน
เป็นเกสรดอกไม้
เค้ายิ้มตลกที่ผมพูด
(ผมก็นึกสดๆเลยเปรียบแบบนั้น)
(ผมก็หัวเราะ)
เค้าบอกไม่เป็นไรครับ
และเค้าขำ
แล้วพูดว่าจริง
เราขายกันแบบแมลงวัน
ไล่ตอมใครๆก็หนี(แล้วเค้าหัวเราะลั่น)
แล้วเราจะเป็นเกสรได้ยังไงครับ?
(เค้าถามผม)
เราก็ต้องโชว์น้ำหวาน
ให้เค้าเห็น
หรือส่งกลิ่นที่เค้าต้องการ
ให้ดึงดูดเค้าเข้ามา
(ต้องบอกก่อนนะครับ
ผมไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบ
ลูกค้าเป็นผีเสื้อ
หรือแมลงวันอะไรนะครับ
มันเป็นการยกตัวอย่างให้เห็นภาพ)
(ต้องขอโทษทุกคนที่อ่านนะครับ
ผมไม่ได้มีเจตนาจะสื่อในทางไม่สมควร
แต่ผมอยากคงภาษาที่คุยในวันนั้น
เพื่ออรรถรสในการอ่านหรือรับฟัง
ให้เป็นออริจินัลที่สุด
หวังว่าคงเข้าใจและไม่โกรธนะครับ)
(เค้าทำหน้านึกตาม)
ตอนนี้ถูกแล้วที่ไปตั้งที่ รพ.
ถูกแล้ว...
ที่คุณไปตั้งบูท
ในที่ๆมีผีเสื้อ
(มีลูกค้า)ที่ต้องการสินค้าคุณที่สุด
ถือว่าเป็นที่รวมคนที่ต้องการ
สิ่งที่คุณขายมากที่สุด
คุณว่าจริงๆคน
ที่มาโรงพยาบาลที่มาเยี่ยมพ่อแม่พี่น้องญาติ
หรือแม่กระทั่งตัวเค้าเองที่ป่วย
ที่เจอปัญหาแล้ว
คุณว่าเกิน50%
เค้าตระหนัก
และเค้าอยากทำประกันไหม?
เค้าพยักหน้าแล้วบอกเกินแน่นอนครับ
ประกันเป็นสิ่งที่
คนจะตระหนัก
เวลาที่เจอปัญหาแล้ว(เค้าตอบ)
ผมถามต่อว่า...
คุณว่าลึกๆเค้าอยากเดินมาสอบถามไหม?
ครับแน่นอน!
ลึกๆต้องอยากถาม(เค้าตอบ)
ผมถาม...
แล้วทำไม
เค้าถึงไม่มาถามเรา?
(เค้าทำหน้านึก)
ผมพูดต่อว่า...
แล้วเวลาคุณเห็นคนออกบูท
ตามห้าง
แล้วมันเป็นของที่คุณสนใจนะ
แต่มีเหตุอะไรที่คุณไม่เดินเข้าไป
หรือเดินเลี่ยง?
เพราะกลัวถูกขาย?(ผมถาม)
ใช่ครับ(เค้าตอบ)
เพราะกลัวถูกบีบ?
ใช่ครับ(เค้าตอบ)
อึดอัดมากๆครับ
เวลาไปตามห้างแล้วเจอแบบนี้
ผมเคยจะสนใจจะสมัคร
โปรแกรมฟิตหุ่น
แต่เข้าไปที
โดนรุมบีบจนเหนื่อย
ไม่อยากเข้าอีกเลย
ตอนแรกเหมือนจะฟัง
ปัญหาผมนะ
แต่ไม่เลย
หาจังหวะขายอย่างเดียว(เค้าพูดระบายออกมา)
ผมถามเค้ากลับ
แล้ววันนี้บูทของคุณแตกต่าง
จากบูทนั้นไหม?
ไม่เลยครับ(เค้าหัวเราะ)
เข้าใจแล้วใช่ไหม?
ว่า....
ทำไมคนที่สนใจจริงๆ
อยากได้
แต่ไม่ยอมเข้ามาหาคุณ(ผมถาม)
เข้าใจ100%เลยครับ(เค้าตอบ)
1.
ผมถามกลับ
แล้วถ้าบูทนั้น
ไม่ขายล่ะ?
ถ้าบูทนั้น
เขียนกระกาศว่า
ปรึกษาเช็คสุขภาพก่อนการออกำลังกาย
วัดไขมัน
วัดมวลรวมฟรี
แล้วแจกผลให้กับทุกคน
คุณเห็นคนต่อแถวอยู่
คุณสนใจมากขึ้นไหม?
คุณอยากไปต่อแถวไหม?
สนใจแน่นอนครับ(เค้าตอบ)
เห็นอะไรไหม?(ผมถาม)
เกสรครับ!!(เค้าตอบพร้อมหัวเราะ)
ได้ผลกับคุณไหม?
ได้ครับ!(เค้าตอบ)
2.
แล้วถ้าคุณเข้าไปวัดแล้ว
เค้าให้คำปรึกษาอย่างดี
ถามประสบการณ์ในการออกกำลังกายคุณ
ถามอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อคุณ
อาการปวดเวลาออกำลังกาย
ถามทุกอย่าง
ที่เป็นปัญหาของคุณ
ฟังคุณ และแนะนำคุณ
ว่าต่อไปนี้ควรออกยังไง
กินยังไง
คุณhappyไหม?
นี่เป็นสิ่งที่อยากให้เกิดกับ
ทุกร้านทุกที่
ที่ผมไปเลยครับ
นี่คือความจริงใจ!(เค้าตอบ)
3.แล้วถ้าหลังจากเสร็จแล้ว
เค้าให้ใบผลลัพธ์คุณพร้อมวิธีออกเองที่บ้าน
และ
เสนอให้ไปวัดทดลองแบบFull
หรือใช้ฟรี1ครั้งที่ฟิตเนสเค้า
คุณจะเอาไหมครับ?
เอาสิครับ(เค้าตอบ)
4.และถ้าเค้า
ไม่ขายอะไรเลยและเสนอว่า
ถ้ามาหาให้มาเจอเค้าได้เลย
จะแนะนำเทรนเนอร์ให้
แล้วแลกเบอร์กันไว้
คุณยินดีให้ไหม?
ยินดีครับเพราะผมต้องการอยู่แล้ว
(เค้าหัวเราะ)
5.ถามตรงๆนะครับ
ถ้าคุณเจอแบบนี้
คิดว่ากี่%ที่คุณจะจบที่นี่
80-90%แน่นอน(เค้าตอบ)
----
เห็นอะไรแล้วใช่ไหมครับ?(ผมถาม)
มากครับ(เค้าตอบ)
ได้ไอเดียไหมครับ?
สว่างมากครับ!!(เค้าตอบพร้อมหัวเราะ)
(ผมอยากรู้ว่าเค้าจะ
เค้าจะเข้าใจ
ในสิ่งที่ผมสื่อไหม
เลยไม่อยากให้เค้าหลุดประเด็นสำคัญ)
เลยถามกลับไปว่า
โอเคได้ไอเดียเนอะ?
แต่ถ้ากลับกัน...
ฟิตเนสนั้น
เค้าทำข้อ1คือ
เขียนป้ายเชิญเข้าไปวัดมวล
หรือปรึกษาฟรี
อันนี้ได้ผลใช่ไหมครับ?
ใช่ครับเป็นเกสร
ที่ทำให้ผมอยากเข้าไป(เค้าตอบ)
ผมถามต่อ....
แต่ถ้าขณะวัด
เข้าเสนอpacketตลอดเวลา
หรือคอยถามก็จริง
แต่ไม่ค่อยฟังที่คุณจะพูด
แล้วก็พยามจะปิดคุณให้ได้
คุณคิดว่าไง?
ผมจะไม่สมัครแน่นอนครับ
และอย่างมากก็ฟังเป็นมารยาท
มันเหมือนถูกหลอกไปขาย
ผมจะไม่มีทาง ผมจะ....
#^¥>|£~£|€|!.€]
(เค้าพูดอย่างเมามัน)
ผมรอให้เค้าหยุดพูด
แล้วถามว่า....
เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ?
ว่าลูกค้าจริงเค้าต้องการ
แต่เค้าต้องการแบบไหน?
และอยากได้การtake careอะไร?
เค้าพูดขึ้นมาว่า
ด้วยภาษาเค้าว่า...
"สว่างครับวันนี้"
ผมพูดต่อว่า....
ถ้าวันนี้เราพาแฟนไปฝากท้องที่รพ.
แล้วเห็นบูทนึงเขียนว่า
"ให้คำปรึกษาการทำประกันเด็กแรกเกิด"
เป็นไปได้ไหมที่เราจะไปขอข้อมูล?
เป็นไปได้สูงครับ(เค้าตอบ)
แล้วเป็นได้ไหม?
ที่เราจะเข้าบูทนี้มากกว่า
บูทที่รับเขียนชื่อบริษัท
ดื้อๆแล้วพนักงานวิ่งชาร์ทเรา?
แน่นอนครับ
จะเลี่ยงบูทนั้นเด็ดขาด
แต่มาเข้าบูทนี้ครับ
(เค้าตอบหัวเราะ)
และผมรู้ไอเดียจากคุณเอ
ในการadaptใช้แล้วครับ!(เค้าตอบอีกที)
เค้าพูดสรุปที่เค้าจดขณะConsult
ให้ผมฟังในภาษาเค้า
1.จริงๆลูกค้าที่ต้องการมีอยู่แล้ว
ถ้าเราเปิดบูทถูกที่
2.จริงๆที่ผ่านมา
ไม่ใช่เราปิดการขายไม่ได้
***"แต่เราไม่เคยเปิดใจเค้าได้เลยมากกว่า"***
3.เราขายแบบแมลงวันตลอด
สร้างความรำคาญให้ลูกค้า
4.และหลังจากนั้น
เราจะเปลี่ยนเป็น
สร้างเกสรดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาแทน
5.แต่เราทำแบบนั้น
ไม่ใช่เพื่อล่อมาขายเด็ดขายอันนั้นผิดมาก
ไม่ใช่ทำดีเพื่อขาย
จะเสนอทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเลย
แต่เราฟังเค้าจริงๆ
ถามเค้าจริงๆ
และดูว่าเค้าติดอะไรกังวลอะไร
ให้คำปรึกษาเค้าจริงๆ
จากใจและช่วยเหลือเค้าจริงๆ
6.เมื่อลูกค้าเค้าแก้สิ่งที่เค้าสงสัย
หรือสิ่งที่เค้าติดได้
และเค้าเปิดใจมาฟังแต่แรก
ไม่ได้ถูกบังคับมาฝืนฟังแบบเมื่อก่อน
และเราช่วยเค้าจริงๆจากใจ
คิดกลับกัน
ถ้าเป็นเราเองก็เปิดใจ
7.นึกถึงเรื่องฟิตเนสคือ
แม้เราจะไม่ตัดสินใจช่วงนั้น
แต่ท้ายสุดก็พร้อมไปจะไปต่อกับ
คนแบบนี้
ที่เค้าใส่ใจเราจริงๆ
หรือ อยากแนะนำคนดีๆรอบตัวเรา
ให้ไปหาเค้าด้วย
ซึ่งเค้าจะขอเบอร์ขอไลน์
เพื่อfollowเรา
เราก็ยินดี
(เค้าสรุปที่จด)
ได้ไอเดียไหมครับ?(ผมถาม)
เค้าบอก...
(มากครับ)
แล้วก็ขอบคุณผม
แล้วก็ก่อนทิ้งท้ายเค้าพูด
"เดี๋ยวผมจะเปลี่ยนทีมขายแมลงวัน
ให้กลายเป็นเกสรดอกไม้"
"เค้าก็หัวเราะ"
“ผมก็หัวเราะ ในความอารมณขันของเค้า”
-------
3เดือนต่อมา
เค้าติดต่อเข้ามาPrivate consultอีก
เรื่องขายรายใหญ่
ผมเลยถามว่าอ่าวเรื่องบูทละ
เป็นไงบ้าง?
เค้าตอบกลับมาว่า
สุดๆครับ
จริงๆวันนี้อยากมาขอบคุณด้วยแหละ
ตอนนี้เป็นไปได้ดีเลยครับ
เปลี่ยนไปเยอะมาก
ลูกทีมผมมีไฟขึ้นเยอะ
เราไปเปิดบูทแต่ละครั้ง
ไม่ใช่เพื่อขาย!
แต่เราไปเพื่อเชิญคนที่สนใจ
ให้เปิดโอกาสเข้ามาปรึกษาเรา
รู้จักเรา
ได้ฟังเค้า รับรู้ปัญหาของเค้า
ไม่มีการบีบเหมือนเมื่อก่อน
แล้วสุดท้ายแม้ว่า
จะไม่ได้ปิดการขายได้
แต่จากการเป็นเกสร
ก็ทำให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาเอง
มากกว่าเดิม3-4เท่าหรือมากกว่านั้น
ในบางวัน
แม้จะไม่มีการปิดการขายเลย
แบบเมื่อก่อน
ตอนแรกรู้สึกไม่ดีมากๆ
ที่บูทไม่ยอดเลย
แต่เชื่อคุณเอ
ลองดูก่อน!
เพราะทำแบบเดิม
ก็ไม่ค่อยได้ผล
และลูกน้องเค้าก็เหนื่อยท้อ
กับการต้องถูกปฏิเสธ
ก็เลยลุยเต็มที่
ผลคือ....
ลูกค้าหลายคนจากที่เข้ามา
แล้วเราทำการFollow
ค่อยทยอยกลับมาซื้อตลอดเวลา!
ถ้านับจริงๆถือว่าโตขึ้น
ซึ่งยอดจากบูทโตขึ้น3-4เท่าตัว
ใน3เดือนที่ผ่านมา
แล้วผมเชื่อว่ายังมีลูกค้าที่คาดว่าจะซื้อ
ที่อยู่ในมือตามมาอีกมาก
ขอบคุณที่ช่วยผมเรื่องนี้ครับ!(เค้าพูด)
และขอบคุณแทนลูกน้องผม
ที่เค้าได้มีความสุข
กับการแบบนี้
เค้าสนุกและ
ที่รู้สึกได้ช่วยคนจริงๆ
ไม่ใช่คอยจ้องขาย
จากเดิมที่มีบางคนหมดไฟ
กลับทำให้ลูกน้องผมหลายคน
ศึกษาproductตัวเองเพิ่มเติม
เพื่อจะได้ช่วยลูกค้าได้ลึกขึ้นครับ!
(ผมเห็นเค้าพูดดีใจ
ผมก็ตื่นตันกับเค้า
และดีใจแทนลูกน้อง
ที่มีผู้นำแบบนี้)
ผมตอบว่า
แต่มันต้องใช้เวลาเนอะเรื่องนี้
ผมว่าคุณเข้าใจ
เค้าตอบกลับมาว่า
ด้วยความยินดีครับ
ผมเห็นทิศทางที่ดี
ในช่วงที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัดแล้ว
ผมลุยเต็มที่แน่นอน
ขอบคุณมากๆที่บอกเคล็ดลับนี้กับผม
“นี่คือความในใจ
ที่ลูกค้า...
ไม่เคยบอกคนขาย”
“วันนี้ ที่คุณขายไม่ได้
เพราะว่า คุณได้พูด
ได้คุยกับเค้า จนหมดแล้ว
แล้วเค้าปฎิเสธคุณ!”
หรือว่า...
“จริงๆแล้ว
เค้าแทบไม่ฟัง
หรือสนใจ
ในสิ่งที่คุณจะพูดเลย”
วันนี้ผมรู้แล้วว่า
ลูกค้าต้องการอะไร!
คำนี้ที่คุณเอพูด
อยู่ในใจผมเสมอ(เค้าพูดทิ้งท้าย)
วันนี้ยาวหน่อยครับ
แต่ผมอยากให้ทุกคนได้อะไรจริงๆ
ไปใช้ได้จริงๆ
ที่มากกว่าแรงบันดาลใจ
ผมตั้งใจถ่ายทอดมาก
หวังว่านี่จะเป็นเทคนิคนึง
ที่ทำให้คุณเปิดใจลูกค้าได้มากขึ้น
และเพิ่มยอดของคุณให้มากขึ้นครับ
ผมA10(เอเท็น)
#iClassSalesUniversity
#สังคมแห่งความเป็นไปได้
------------
**ประกาศข่าว
พี่น้องที่ถามเรื่องprivate cosult(Vdo call)
ตอนนี้คิวเดือนก.ค.เต็มแล้วนะครับ
คิวต่อไปประมาณกลางๆเดือนส.ค.
ก็ลองสอบถามคิวอีกทีก่อนสมัครครับ
แต่ระหว่างนี้ใครที่รอไม่ไหว
หรือใครอยากจะไปต่อลงลึกในเรื่องการหาลูกค้าใหม่
แบบจริงจัง ไปกับผมในรูปแบบคลาส
ตอนนี้ผมเปิด Pre-order
เป็น1ในMaster Class ที่ผมภูมิใจ
และข้อมูลพวกนี้ผมเคยprivate
ให้กับคนที่จ่ายหลักแสนเข้ามาปรึกษา
แล้วได้ผล
iClass29-Opening Sales Secret
“เปิดการขาย เพิ่มรายได้200-400%”
ในนั้นจะรวบรวมเทคนิค
การขายที่ผมใช้มาตลอด10ปี
เน้นที่การหาลูกค้าใหม่
จะเริ่มหาลูกค้ายังไง?
จะเปิดใจลูกค้ายังไง?
ทำยังไงให้ลูกค้านึกถึงเราก่อนคนอื่น?
จนนำไปสู่การปิดการขายได้?
คลาสนี้ผมมั่นใจว่า
จะทำให้คุณหาลูกค้าเพิ่มได้อย่างน้อย200%
เพื่อโอกาสในการปิดการขายที่มากขึ้น
*วันนี้รับสมัครเป็นวันสุดท้าย
พี่น้องที่อยากลุย
สามารถสมัครเข้ามาจอยได้ทันทีที่ลิ้งค์ด้านล่าง
http://bit.ly/2IcMMNX
คลาสนี้ผมขอแนะนำเลยครับ
cyclone คือ 在 Un+ Chirdpong: อั๋น เชิดพงษ์ iclass CEO Facebook 的最佳解答
Post นี้ดีมากครับ
ไม่อยากให้ทุกคนพลาด
ใครที่ ทำงานขาย
แล้วเคยคิดว่า
เราขายไม่ได้ เราขายไม่เก่ง
ที่จริงแล้ว
เรา...
อาจจะยังไม่ได้เริ่มขายเลยด้วยซ้ำ
ห้ามพลาดครับ
ยาวหน่อย
แต่คุ้มค่าทุกบรรทัดที่ได้อ่านแน่นอน
ลุย 10x
Un+Chirdpong (อั๋น เชิดพงษ์)
“วันนี้ ที่คุณขายไม่ได้
เพราะว่า คุณได้พูด
ได้คุยกับเค้า จนหมดแล้ว
แล้วเค้าปฎิเสธคุณ!”
หรือว่า...
“จริงๆแล้ว
เค้าแทบไม่ฟัง
หรือสนใจ
ในสิ่งที่คุณจะพูดเลย”
ผมถามผู้บริหารทีมขายท่านนึง
ซึ่งติดต่อทีมงาน
มาpackage Private Consult
1ชม. กับผม
เคสนี้เค้ายินให้ผมนำมาเล่าได้
เพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกคน
แต่ตามอุดมคติของผมคือ
เวลานำเรื่องมาแชร์
ผมจะไม่บอกชื่อหรือบริษัทของเค้า
ปกติตอนConsult
ผมจะเป็นคนที่ฮุกเข้าเรื่องทันที
เพื่อให้ประหยัดเวลา
และให้เค้าไปตอบโจทย์ได้เร็วที่สุด
มากที่สุด
ผมดูข้อมูลที่เค้าส่งมาให้
เค้าเป็นผู้บริหาร
ของบริษัทแห่งหนึ่ง
งานของเค้า
องค์กรของเค้าเป็นไปได้ด้วยดี
ไม่มีปัญหาอะไร
แต่เค้าอยากทำให้นักขาย
พัฒนาศักยภาพเพิ่มมากขึ้น
ทันต่อโลกมากขึ้น
และได้ใช้เทคนิคใหม่ๆ
ทำให้เข้าใจและเปิดใจลูกค้าได้มากขึ้น
ผมนึกชมเค้าในใจ
ว่าทีมนี้ต้องไปไกลที่มีผู้บริหารแบบนี้
เพราะสมัยที่ผมทำงานขาย
ไม่มีเลย
มีแต่อบรมเป็นพิธี
และเวลายอดตก
เค้าก็จะให้ HR
หาคนมาMotivation
บิ้วให้เกิดกำลังใจฮึกเหิม
ซึ่งนั่นมันทำให้มีกำลังผ่านวันนั้นไปได้
แต่จริงๆท้ายที่สุด
มันไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ
พอขายไม่ได้
ลูกค้าปฏิเสธบ่อยๆ
ก็กลับมาท้อมาหงอยกันอีก
คุณที่อ่านอยู่คงเห็นภาพตามนะครับ
ปัญหาไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ
เหมือนคุณปวดฟันอยู่
ปวดมากๆนอนก็ปวดตื่นมาก็ปวด
ทานข้าวก็ปวด
ไปไหนก็ปวด
แล้วพี่รูมเมทของคุณ
ให้กำลังใจคุณ
แล้วให้พาราเซตามอลคุณกิน
พอหมดฤทธิ์ยา
ก็ปวดอีก
แล้วก็กินยาอีก
จริงที่ยามันทำให้หายปวด
ลืมไปชั่วขณะ
แต่สักพักมันก็ต้องกลับมาปวดอีก
เมื่อปัญหาที่แท้จริงไม่ได้ถูกแก้
การขายก็เช่นกัน
หลายองค์กรรวมที่ผมเคยอยู่
เวลานักขายๆไม่ได้
ก็แก้ปัญหาด้วยยาแก้ปวด
แต่ไม่ได้Focus
ที่ต้นเหตุเลย
คือพัฒนาทักษะการขาย
ผมกล้าพูดว่า
ที่ผมอยู่ได้โตได้
เพราะผมศึกษาเพิ่มเติมเองจากความภายนอก
และศึกษาจากคนที่เก่งๆสำเร็จในงาน
ผมชมผู้บริหารท่านนี้ในใจ
ที่เค้าที่เค้าเข้าใจโลกแห่งความจริง
ว่าอยากขายดี
ไม่ใช่ให้ยาแก้ปวด
แต่มันต้องแก้ที่ต้นเหตุ
ผมถามเค้าว่ารู้จักผมได้ยังไง
เค้าบอกHRบริษัทเค้า
เป็นคนแนะนำ
เพราะติดตามเรื่องการขาย
เค้าบอกเค้ารู้หมดแหละ
เทคนิคปิดการขาย
หรือวิธี Selling Cycloneของคุณเอ
หลายครั้งHRก็เอามาให้ผมดู
และผมก็เอาไปใช้กับทีม
และมันเปลี่ยนเลย
นักขายไม่ได้มีแค่กำลังใจ
ไม่ได้อยู่ได้ด้วยความหวัง
แต่หลังผมสอนเค้า
เค้าอยู่ได้ด้วยความเชื่อ
ว่าตัวเองสามารถที่จะขายดีได้
จนผมบอกว่า
ติดต่อ
Consultคุณเอให้หน่อย(เค้าพูดพร้อมหัวเราะ)
พอผมฟังเลยรู้สึกไม่แปลกใจที่
ทำไมทีมเค้าถึงโต
เพราะHRองค์กรนี่ใส่ใจจริงๆ
ผมฮุกเข้าเรื่องทันที
ว่าวันนี้ต้องการให้ผมเจาะเรื่องไหนให้
เพราะดูจากยอดก็โตแล้ว
เค้าบอก2เรื่อง
คือการทำออนไลน์
กับการออกบูท
แล้วปิดการขายไม่ได้
แต่เรื่องออนไลน์
ขอเป็นคราวหน้าดีกว่า
เดี๋ยวผมขอคิวคุณเออีกที(เค้าพูด)
ผมอยากได้เรื่องออกบูท
มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ลูกค้าปฏิเสธ
ปกติออกผมเช่าบูทตามงาน
ออกบูทตามโรงพยาบาล
ผมพูดว่าถูกแล้วนี่ครับ
เอาตัวไปอยู่ในที่ๆ
มีลูกค้าต้องการ
คนมาโรงพยาบาล
เพราะป่วย
เค้าตระหนักแน่นอนว่า
ประกันสำคัญ
ใช่ครับคุณเอ
คนที่ป่วย
หรือป่วยหนัก
มีเคสในอดีตจนทำประกันยาก
มักเข้ามาหาเราเอง
แต่ก็ต้องยอมรับว่าทำยาก
แต่เราก็ดูแลช่วยเต็มที่
แต่หลายเคสก็ต้องพูดความจริงกับเค้า
ว่ามันทำไม่ได้
แต่เคสที่ยังไม่มีปัญหา
ที่ลึกๆสนใจ
แต่เวลานักขายไปขาย
แล้วมักจะโดนปฏิเสธตลอด
ผมรู้ว่าประกันมันช่วยเค้าได้
ในวันที่มันเกิดเรื่องจริงๆ
แต่ก็เกิน95%
พอเข้าไปคุยลูกค้า
เหมือนจะสนใจ
แต่สุดท้ายก็ถูกปฏิเสธตลอด
ผมคิดว่ามันจะทำยังไงให้ดีขึ้นได้(เค้าถาม)
ผมคิดอยู่ชั่วครู
มองถึงเหตุการณ์ที่เค้าเจอ
และมองกลับมาที่ประสบการณ์ผม
ผมยิงคำถามสำคัญไปหาเค้าว่า.....
“1.วันนี้ ที่ทีมคุณขายไม่ได้
เพราะว่า ทีมคุณได้ พูด
ได้คุยกับเค้า จนหมดแล้ว
แล้ว เค้าปฎิเสธ”
หรือ ว่า...
“2.เค้าแทบไม่ฟัง
หรือสนใจ
ในสิ่งที่ทีมคุณจะพูดเลย”
เค้าเงียบไปราว10วิ
ก่อนพูดออกมาว่า....
ผมคิดดูแล้ว
จริงครับ
ข้อ2
ลูกค้าไม่สนใจในสิ่งที่เราพูดเลย
หรือฟังก็สุดท้ายปฏิเสธ(เค้าพูด)
เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ(ผมถาม)
(เค้าพยักหน้าในvdocall)
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับทีมคุณ
ไม่ใช่ปิดการขายไม่ได้
แต่จริงๆคือ
"ทีมเราเปิดการขายไม่ได้เลยต่างหาก"
"ลูกค้าไม่เปิดใจที่จะฟังแต่แรก"
"เลยปฏิเสธหรือฟังเป็นพิธีแล้วรอปฏิเสธ"
โห ใช่ครับ
คุณเออ่านเกมส์ขาดมาก(เค้าพูด)
จริงๆครับ
ปัญหาคือไม่ใช่ปิดการขาย
แต่เป็นเพราะ
เราเปิดใจเค้าไม่ได้จริงๆ(เค้าพูด)
ขอบคุณมากครับ(เค้าพูด)
แล้วกรณีแบบนี้
ผมจะเปิดใจเค้าได้ยังไง?(เค้าถามต่อ)
ผมนึกสมัยผมขายรถ
แล้วพยามแจกโบรชัวร์ตามห้าง
แล้วลูกค้ากลัว
ลูกค้าหนี
เหมือนผมเป็นแมลงวันไปตอมเค้า
แล้วเค้าพยามหนี
แต่สุดท้ายผมเปลี่ยนสถานการณ์ได้
กลายเป็นคนที่มีลูกค้าเค้ามาคุยด้วยมากที่สุด
ซึ่งนั่นทำให้ผมมีโอกาสที่จะปิดมากกว่าคนอื่น
ผมบอกเค้าไปว่า
ถ้าผมบอกไป
จะทำเลยไหมครับ?
มันอาจจะขัดใจและไม่ค่อยมีใครทำ
เค้าบอกยินดีมาก!
ผมบอกเค้าว่า...
โอเค!
เราจะเปลี่ยนทีมเราจากแมลงวัน
เป็นเกสรดอกไม้
เค้ายิ้มตลกที่ผมพูด
(ผมก็นึกสดๆเลยเปรียบแบบนั้น)
(ผมก็หัวเราะ)
เค้าบอกไม่เป็นไรครับ
และเค้าขำ
แล้วพูดว่าจริง
เราขายกันแบบแมลงวัน
ไล่ตอมใครๆก็หนี(แล้วเค้าหัวเราะลั่น)
แล้วเราจะเป็นเกสรได้ยังไงครับ?
(เค้าถามผม)
เราก็ต้องโชว์น้ำหวาน
ให้เค้าเห็น
หรือส่งกลิ่นที่เค้าต้องการ
ให้ดึงดูดเค้าเข้ามา
(ต้องบอกก่อนนะครับ
ผมไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบ
ลูกค้าเป็นผีเสื้อ
หรือแมลงวันอะไรนะครับ
มันเป็นการยกตัวอย่างให้เห็นภาพ)
(ต้องขอโทษทุกคนที่อ่านนะครับ
ผมไม่ได้มีเจตนาจะสื่อในทางไม่สมควร
แต่ผมอยากคงภาษาที่คุยในวันนั้น
เพื่ออรรถรสในการอ่านหรือรับฟัง
ให้เป็นออริจินัลที่สุด
หวังว่าคงเข้าใจและไม่โกรธนะครับ)
(เค้าทำหน้านึกตาม)
ตอนนี้ถูกแล้วที่ไปตั้งที่ รพ.
ถูกแล้ว...
ที่คุณไปตั้งบูท
ในที่ๆมีผีเสื้อ
(มีลูกค้า)ที่ต้องการสินค้าคุณที่สุด
ถือว่าเป็นที่รวมคนที่ต้องการ
สิ่งที่คุณขายมากที่สุด
คุณว่าจริงๆคน
ที่มาโรงพยาบาลที่มาเยี่ยมพ่อแม่พี่น้องญาติ
หรือแม่กระทั่งตัวเค้าเองที่ป่วย
ที่เจอปัญหาแล้ว
คุณว่าเกิน50%
เค้าตระหนัก
และเค้าอยากทำประกันไหม?
เค้าพยักหน้าแล้วบอกเกินแน่นอนครับ
ประกันเป็นสิ่งที่
คนจะตระหนัก
เวลาที่เจอปัญหาแล้ว(เค้าตอบ)
ผมถามต่อว่า...
คุณว่าลึกๆเค้าอยากเดินมาสอบถามไหม?
ครับแน่นอน!
ลึกๆต้องอยากถาม(เค้าตอบ)
ผมถาม...
แล้วทำไม
เค้าถึงไม่มาถามเรา?
(เค้าทำหน้านึก)
ผมพูดต่อว่า...
แล้วเวลาคุณเห็นคนออกบูท
ตามห้าง
แล้วมันเป็นของที่คุณสนใจนะ
แต่มีเหตุอะไรที่คุณไม่เดินเข้าไป
หรือเดินเลี่ยง?
เพราะกลัวถูกขาย?(ผมถาม)
ใช่ครับ(เค้าตอบ)
เพราะกลัวถูกบีบ?
ใช่ครับ(เค้าตอบ)
อึดอัดมากๆครับ
เวลาไปตามห้างแล้วเจอแบบนี้
ผมเคยจะสนใจจะสมัคร
โปรแกรมฟิตหุ่น
แต่เข้าไปที
โดนรุมบีบจนเหนื่อย
ไม่อยากเข้าอีกเลย
ตอนแรกเหมือนจะฟัง
ปัญหาผมนะ
แต่ไม่เลย
หาจังหวะขายอย่างเดียว(เค้าพูดระบายออกมา)
ผมถามเค้ากลับ
แล้ววันนี้บูทของคุณแตกต่าง
จากบูทนั้นไหม?
ไม่เลยครับ(เค้าหัวเราะ)
เข้าใจแล้วใช่ไหม?
ว่า....
ทำไมคนที่สนใจจริงๆ
อยากได้
แต่ไม่ยอมเข้ามาหาคุณ(ผมถาม)
เข้าใจ100%เลยครับ(เค้าตอบ)
1.
ผมถามกลับ
แล้วถ้าบูทนั้น
ไม่ขายล่ะ?
ถ้าบูทนั้น
เขียนกระกาศว่า
ปรึกษาเช็คสุขภาพก่อนการออกำลังกาย
วัดไขมัน
วัดมวลรวมฟรี
แล้วแจกผลให้กับทุกคน
คุณเห็นคนต่อแถวอยู่
คุณสนใจมากขึ้นไหม?
คุณอยากไปต่อแถวไหม?
สนใจแน่นอนครับ(เค้าตอบ)
เห็นอะไรไหม?(ผมถาม)
เกสรครับ!!(เค้าตอบพร้อมหัวเราะ)
ได้ผลกับคุณไหม?
ได้ครับ!(เค้าตอบ)
2.
แล้วถ้าคุณเข้าไปวัดแล้ว
เค้าให้คำปรึกษาอย่างดี
ถามประสบการณ์ในการออกกำลังกายคุณ
ถามอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อคุณ
อาการปวดเวลาออกำลังกาย
ถามทุกอย่าง
ที่เป็นปัญหาของคุณ
ฟังคุณ และแนะนำคุณ
ว่าต่อไปนี้ควรออกยังไง
กินยังไง
คุณhappyไหม?
นี่เป็นสิ่งที่อยากให้เกิดกับ
ทุกร้านทุกที่
ที่ผมไปเลยครับ
นี่คือความจริงใจ!(เค้าตอบ)
3.แล้วถ้าหลังจากเสร็จแล้ว
เค้าให้ใบผลลัพธ์คุณพร้อมวิธีออกเองที่บ้าน
และ
เสนอให้ไปวัดทดลองแบบFull
หรือใช้ฟรี1ครั้งที่ฟิตเนสเค้า
คุณจะเอาไหมครับ?
เอาสิครับ(เค้าตอบ)
4.และถ้าเค้า
ไม่ขายอะไรเลยและเสนอว่า
ถ้ามาหาให้มาเจอเค้าได้เลย
จะแนะนำเทรนเนอร์ให้
แล้วแลกเบอร์กันไว้
คุณยินดีให้ไหม?
ยินดีครับเพราะผมต้องการอยู่แล้ว
(เค้าหัวเราะ)
5.ถามตรงๆนะครับ
ถ้าคุณเจอแบบนี้
คิดว่ากี่%ที่คุณจะจบที่นี่
80-90%แน่นอน(เค้าตอบ)
----
เห็นอะไรแล้วใช่ไหมครับ?(ผมถาม)
มากครับ(เค้าตอบ)
ได้ไอเดียไหมครับ?
สว่างมากครับ!!(เค้าตอบพร้อมหัวเราะ)
(ผมอยากรู้ว่าเค้าจะ
เค้าจะเข้าใจ
ในสิ่งที่ผมสื่อไหม
เลยไม่อยากให้เค้าหลุดประเด็นสำคัญ)
เลยถามกลับไปว่า
โอเคได้ไอเดียเนอะ?
แต่ถ้ากลับกัน...
ฟิตเนสนั้น
เค้าทำข้อ1คือ
เขียนป้ายเชิญเข้าไปวัดมวล
หรือปรึกษาฟรี
อันนี้ได้ผลใช่ไหมครับ?
ใช่ครับเป็นเกสร
ที่ทำให้ผมอยากเข้าไป(เค้าตอบ)
ผมถามต่อ....
แต่ถ้าขณะวัด
เข้าเสนอpacketตลอดเวลา
หรือคอยถามก็จริง
แต่ไม่ค่อยฟังที่คุณจะพูด
แล้วก็พยามจะปิดคุณให้ได้
คุณคิดว่าไง?
ผมจะไม่สมัครแน่นอนครับ
และอย่างมากก็ฟังเป็นมารยาท
มันเหมือนถูกหลอกไปขาย
ผมจะไม่มีทาง ผมจะ....
#^¥>|£~£|€|!.€]
(เค้าพูดอย่างเมามัน)
ผมรอให้เค้าหยุดพูด
แล้วถามว่า....
เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ?
ว่าลูกค้าจริงเค้าต้องการ
แต่เค้าต้องการแบบไหน?
และอยากได้การtake careอะไร?
เค้าพูดขึ้นมาว่า
ด้วยภาษาเค้าว่า...
"สว่างครับวันนี้"
ผมพูดต่อว่า....
ถ้าวันนี้เราพาแฟนไปฝากท้องที่รพ.
แล้วเห็นบูทนึงเขียนว่า
"ให้คำปรึกษาการทำประกันเด็กแรกเกิด"
เป็นไปได้ไหมที่เราจะไปขอข้อมูล?
เป็นไปได้สูงครับ(เค้าตอบ)
แล้วเป็นได้ไหม?
ที่เราจะเข้าบูทนี้มากกว่า
บูทที่รับเขียนชื่อบริษัท
ดื้อๆแล้วพนักงานวิ่งชาร์ทเรา?
แน่นอนครับ
จะเลี่ยงบูทนั้นเด็ดขาด
แต่มาเข้าบูทนี้ครับ
(เค้าตอบหัวเราะ)
และผมรู้ไอเดียจากคุณเอ
ในการadaptใช้แล้วครับ!(เค้าตอบอีกที)
เค้าพูดสรุปที่เค้าจดขณะConsult
ให้ผมฟังในภาษาเค้า
1.จริงๆลูกค้าที่ต้องการมีอยู่แล้ว
ถ้าเราเปิดบูทถูกที่
2.จริงๆที่ผ่านมา
ไม่ใช่เราปิดการขายไม่ได้
***"แต่เราไม่เคยเปิดใจเค้าได้เลยมากกว่า"***
3.เราขายแบบแมลงวันตลอด
สร้างความรำคาญให้ลูกค้า
4.และหลังจากนั้น
เราจะเปลี่ยนเป็น
สร้างเกสรดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาแทน
5.แต่เราทำแบบนั้น
ไม่ใช่เพื่อล่อมาขายเด็ดขายอันนั้นผิดมาก
ไม่ใช่ทำดีเพื่อขาย
จะเสนอทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเลย
แต่เราฟังเค้าจริงๆ
ถามเค้าจริงๆ
และดูว่าเค้าติดอะไรกังวลอะไร
ให้คำปรึกษาเค้าจริงๆ
จากใจและช่วยเหลือเค้าจริงๆ
6.เมื่อลูกค้าเค้าแก้สิ่งที่เค้าสงสัย
หรือสิ่งที่เค้าติดได้
และเค้าเปิดใจมาฟังแต่แรก
ไม่ได้ถูกบังคับมาฝืนฟังแบบเมื่อก่อน
และเราช่วยเค้าจริงๆจากใจ
คิดกลับกัน
ถ้าเป็นเราเองก็เปิดใจ
7.นึกถึงเรื่องฟิตเนสคือ
แม้เราจะไม่ตัดสินใจช่วงนั้น
แต่ท้ายสุดก็พร้อมไปจะไปต่อกับ
คนแบบนี้
ที่เค้าใส่ใจเราจริงๆ
หรือ อยากแนะนำคนดีๆรอบตัวเรา
ให้ไปหาเค้าด้วย
ซึ่งเค้าจะขอเบอร์ขอไลน์
เพื่อfollowเรา
เราก็ยินดี
(เค้าสรุปที่จด)
ได้ไอเดียไหมครับ?(ผมถาม)
เค้าบอก...
(มากครับ)
แล้วก็ขอบคุณผม
แล้วก็ก่อนทิ้งท้ายเค้าพูด
"เดี๋ยวผมจะเปลี่ยนทีมขายแมลงวัน
ให้กลายเป็นเกสรดอกไม้"
"เค้าก็หัวเราะ"
“ผมก็หัวเราะ ในความอารมณขันของเค้า”
-------
3เดือนต่อมา
เค้าติดต่อเข้ามาPrivate consultอีก
เรื่องขายรายใหญ่
ผมเลยถามว่าอ่าวเรื่องบูทละ
เป็นไงบ้าง?
เค้าตอบกลับมาว่า
สุดๆครับ
จริงๆวันนี้อยากมาขอบคุณด้วยแหละ
ตอนนี้เป็นไปได้ดีเลยครับ
เปลี่ยนไปเยอะมาก
ลูกทีมผมมีไฟขึ้นเยอะ
เราไปเปิดบูทแต่ละครั้ง
ไม่ใช่เพื่อขาย!
แต่เราไปเพื่อเชิญคนที่สนใจ
ให้เปิดโอกาสเข้ามาปรึกษาเรา
รู้จักเรา
ได้ฟังเค้า รับรู้ปัญหาของเค้า
ไม่มีการบีบเหมือนเมื่อก่อน
แล้วสุดท้ายแม้ว่า
จะไม่ได้ปิดการขายได้
แต่จากการเป็นเกสร
ก็ทำให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาเอง
มากกว่าเดิม3-4เท่าหรือมากกว่านั้น
ในบางวัน
แม้จะไม่มีการปิดการขายเลย
แบบเมื่อก่อน
ตอนแรกรู้สึกไม่ดีมากๆ
ที่บูทไม่ยอดเลย
แต่เชื่อคุณเอ
ลองดูก่อน!
เพราะทำแบบเดิม
ก็ไม่ค่อยได้ผล
และลูกน้องเค้าก็เหนื่อยท้อ
กับการต้องถูกปฏิเสธ
ก็เลยลุยเต็มที่
ผลคือ....
ลูกค้าหลายคนจากที่เข้ามา
แล้วเราทำการFollow
ค่อยทยอยกลับมาซื้อตลอดเวลา!
ถ้านับจริงๆถือว่าโตขึ้น
ซึ่งยอดจากบูทโตขึ้น3-4เท่าตัว
ใน3เดือนที่ผ่านมา
แล้วผมเชื่อว่ายังมีลูกค้าที่คาดว่าจะซื้อ
ที่อยู่ในมือตามมาอีกมาก
ขอบคุณที่ช่วยผมเรื่องนี้ครับ!(เค้าพูด)
และขอบคุณแทนลูกน้องผม
ที่เค้าได้มีความสุข
กับการแบบนี้
เค้าสนุกและ
ที่รู้สึกได้ช่วยคนจริงๆ
ไม่ใช่คอยจ้องขาย
จากเดิมที่มีบางคนหมดไฟ
กลับทำให้ลูกน้องผมหลายคน
ศึกษาproductตัวเองเพิ่มเติม
เพื่อจะได้ช่วยลูกค้าได้ลึกขึ้นครับ!
(ผมเห็นเค้าพูดดีใจ
ผมก็ตื่นตันกับเค้า
และดีใจแทนลูกน้อง
ที่มีผู้นำแบบนี้)
ผมตอบว่า
แต่มันต้องใช้เวลาเนอะเรื่องนี้
ผมว่าคุณเข้าใจ
เค้าตอบกลับมาว่า
ด้วยความยินดีครับ
ผมเห็นทิศทางที่ดี
ในช่วงที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัดแล้ว
ผมลุยเต็มที่แน่นอน
ขอบคุณมากๆที่บอกเคล็ดลับนี้กับผม
“นี่คือความในใจ
ที่ลูกค้า...
ไม่เคยบอกคนขาย”
“วันนี้ ที่คุณขายไม่ได้
เพราะว่า คุณได้พูด
ได้คุยกับเค้า จนหมดแล้ว
แล้วเค้าปฎิเสธคุณ!”
หรือว่า...
“จริงๆแล้ว
เค้าแทบไม่ฟัง
หรือสนใจ
ในสิ่งที่คุณจะพูดเลย”
วันนี้ผมรู้แล้วว่า
ลูกค้าต้องการอะไร!
คำนี้ที่คุณเอพูด
อยู่ในใจผมเสมอ(เค้าพูดทิ้งท้าย)
วันนี้ยาวหน่อยครับ
แต่ผมอยากให้ทุกคนได้อะไรจริงๆ
ไปใช้ได้จริงๆ
ที่มากกว่าแรงบันดาลใจ
ผมตั้งใจถ่ายทอดมาก
หวังว่านี่จะเป็นเทคนิคนึง
ที่ทำให้คุณเปิดใจลูกค้าได้มากขึ้น
และเพิ่มยอดของคุณให้มากขึ้นครับ
ผมA10(เอเท็น)
#iClassSalesUniversity
#สังคมแห่งความเป็นไปได้
------------
**ประกาศข่าว
พี่น้องที่ถามเรื่องprivate cosult(Vdo call)
ตอนนี้คิวเดือนก.ค.เต็มแล้วนะครับ
คิวต่อไปประมาณกลางๆเดือนส.ค.
ก็ลองสอบถามคิวอีกทีก่อนสมัครครับ
แต่ระหว่างนี้ใครที่รอไม่ไหว
หรือใครอยากจะไปต่อลงลึกในเรื่องการหาลูกค้าใหม่
แบบจริงจัง ไปกับผมในรูปแบบคลาส
ตอนนี้ผมเปิด Pre-order
เป็น1ในMaster Class ที่ผมภูมิใจ
และข้อมูลพวกนี้ผมเคยprivate
ให้กับคนที่จ่ายหลักแสนเข้ามาปรึกษา
แล้วได้ผล
iClass29-Opening Sales Secret
“เปิดการขาย เพิ่มรายได้200-400%”
ในนั้นจะรวบรวมเทคนิค
การขายที่ผมใช้มาตลอด10ปี
เน้นที่การหาลูกค้าใหม่
จะเริ่มหาลูกค้ายังไง?
จะเปิดใจลูกค้ายังไง?
ทำยังไงให้ลูกค้านึกถึงเราก่อนคนอื่น?
จนนำไปสู่การปิดการขายได้?
คลาสนี้ผมมั่นใจว่า
จะทำให้คุณหาลูกค้าเพิ่มได้อย่างน้อย200%
เพื่อโอกาสในการปิดการขายที่มากขึ้น
*วันนี้รับสมัครเป็นวันสุดท้าย
พี่น้องที่อยากลุย
สามารถสมัครเข้ามาจอยได้ทันทีที่ลิ้งค์ด้านล่าง
http://bit.ly/2IcMMNX
คลาสนี้ผมขอแนะนำเลยครับ
cyclone คือ 在 iaumreview Youtube 的精選貼文
ถ้าเทียบความหรูหรา และคุณภาพที่มั่นใจได้ในวงการมือถือ คือ Apple วงการเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ก็ต้องยกตำแหน่งนี้ให้ Dyson ค่ะ วันนี้อุ้มขอเอา Dyson Cyclone V10 มารีวิวให้ชมกัน ดูจบแล้วจะเข้าใจเลย ว่าทำไมต้องมีสักเครื่องนึงติดบ้านไว้ #iaumreview
#dysonv10
cyclone คือ 在 X Creator Youtube 的最讚貼文
ถังดักฝุ่นหรือเศษผง..จากการดูดฝุ่นไม่ให้เครื่องดูดฝุ่นเต็มไว
▲ติดตาม ช่อง : https://goo.gl/c1FYeD
▲พูดคุยเกี่ยวกับงานช่าง Facebook : osirissupaluk
▲ลงคลิปเกี่ยวกับงานช่างทุกๆสัปดาห์