「USB 4 三雄」
#創惟(6104)、 #祥碩(5269)、 #威鋒電子(6756)
複習一下之前隊長在粉絲團曾分享過的資訊👇https://www.facebook.com/Capt.industry/posts/643325257060720
https://www.facebook.com/Capt.industry/posts/646557516737494
隊長6月就在追蹤的USB 4三雄,
直到9月,產業趨勢對,有時候儘管買貴,不一定會買錯。
以下幫同學複習一些上課的部分~
人類對於傳輸速度的需求無止息,USB 4的特點如下:
1.傳輸規格的演進沒有一刻停歇,今年、明年又將迎來新的變革。
2.USB的歷史已經有24年,USB 3.2也已經用了3年。
3.傳輸速度快8倍。
4.向下相容。
5.充電量高3倍,100W。
6.應用層面:車用電子、高速傳輸、AI、物聯網、電子產品升級、影音串流。
----
✅祥碩
1.華碩集團,高速傳輸及控制IC設計。現已投入USB 4晶片研發。
2.包括:USB 3.1/3.2、Type-C、Thunderbolt、SATA、PCI-E橋接晶片、HDD/SSD的USB橋接晶片。
3.客戶:華碩(2357)、廣達(2382)、仁寶(2324)、微星(2377)、東芝(Toshiba)、希捷(Seagate)、威騰電子(WD)、英特爾(Intel)、超微(AMD)、SanDisk。
4.獨家取得2021年起蘋果(Apple)於Macbook及iMac開始搭載的自行研發Apple Silicon處理器相關USB控制器大單。
5.獲AMD 400系列晶片組、500系列晶片組中的中階B550及低階A520(支援PCIe Gen 3)的代工訂單。預期600系列全部晶片組訂單亦會拿下,下半年進入量產。
6.美系外資預估,祥碩2021年和2022年每股盈餘(EPS)預測上調4%和3%,分別為43.57元、60.88元,目標價由2,200元調升到2,250元、維持加碼評等。
✅創惟
1.USB集線器/儲存媒體/影像控制IC設計。
2.客戶:蘋果、Sony PS5、任天堂Switch、微軟(Microsoft)Surface、雷蛇(Razer)VR裝置、三星(Samsung)、Panasonic、LG、Seagate、金士頓(Kingston)。
3.獲Apple外接式記憶卡讀卡機USB控制IC訂單,亦獲全球前5大筆電廠及微軟Surface訂單。
4.另有無線充電器打入高通Quick Charge 3.0及聯發科(2454)Pump Express 3.0快充晶片供應鏈,並符合蘋果、三星、展訊快充標準。
5.積極開發USB 3.2/4.0及PCIe Gen3/4等高速序列介面規格的相關實體層IP及控制IC。
6.轉投資:微型投影機面板控制IC廠美商「晶典Syndiant」。
7.去年EPS為3.69元,今年第1季EPS為0.51元。
✅威鋒電子
1.成立於2008年,是威盛(2388)轉投資的子公司。
2.主要銷售USB相關控制晶片,擁有USB3.1 Gen1/Gen2、USB-C及USB Power Delivery之完整解決方案。
3.2010年9月,公司為全球第1家獲得USB IF認證的USB 3.0快閃記憶碟控制晶片廠商。至2020年11月,威盛為其最大股東,持股達66.3%。
4.至2021年第1季產品比重:USB系列晶片約占99%、IP專利授權及其他收入約占1%。
5.USB Hub控制IC已打入Sony PS5、任天堂Switch供應鏈,以及美系及中國的路由器、事務機市場。
6.目前正積極研發USB 4技術,預期2021年下半年量產。
7.前年EPS為4.05元、去年EPS為5.29元,今年第1季EPS為2.74元。
再麻煩大家多多按讚分享,
您的支持與鼓勵是我最大的原動力,
非常感謝!
------
🏆【張捷主流產業選股術 數位訂閱】
✔️主頁 → https://reurl.cc/NX3jke
🏆【2021張捷產業冠軍班 週二晚上課程】
✔️冬季現場班(10~12月)→ https://reurl.cc/Ag3GpY
✔️冬季直播班(10~12月)→ https://reurl.cc/qmYMog
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過4萬的網紅MoneyDJ理財網,也在其Youtube影片中提到,宏碁旗下3C通路代理商,股號6776的展碁國際,預計3月底興櫃轉上市,展碁代理產品橫跨商用以及家用市場,產品除了各大PC品牌之外,也代理家電、遊戲機等產品,包括近兩年銷售火熱的任天堂遊戲機Switch,也是由展碁取得台灣獨家代理。隨著產品多元分散策略逐步奏效,並獲得品牌廠的信賴,帶動展碁近年營收、獲...
「apple eps 2020」的推薦目錄:
- 關於apple eps 2020 在 我是產業隊長 張捷 Facebook 的最佳貼文
- 關於apple eps 2020 在 我是產業隊長 張捷 Facebook 的最讚貼文
- 關於apple eps 2020 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於apple eps 2020 在 MoneyDJ理財網 Youtube 的最讚貼文
- 關於apple eps 2020 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文
- 關於apple eps 2020 在 Is Meta Stock A Buy? Social Media Giant Has A New Ticker ... 的評價
- 關於apple eps 2020 在 IEObserve 國際經濟觀察is on Facebook. To connect with ... 的評價
apple eps 2020 在 我是產業隊長 張捷 Facebook 的最讚貼文
隊長今天跟大家聊聊「內生成長理論」,
還有電動車取代部分燃油車的外部成長雙動能,
車用保護元件使用量方面,傳統燃油車的一台約50顆,
電動車的使用量預估增加10倍以上。
#興勤(2428)
1.全球最大壓敏電阻(市占42%)、熱敏電阻(市占40%)廠。
2.生產:壓敏電阻、熱敏電組、汽車傳感器、電動車充電樁感測器、電動車電池用溫度感測元件。
3.客戶:Apple iPad、飛利浦、歐司朗、華為、OPPO、小米、Tesla、比亞迪。
4.於高雄楠梓加工出口區興建第三期廠房,預計2022年投產。
5.去年EPS 10.81元,今年上半年EPS 6.57元。
傳統汽車感測器的數量僅30顆~50顆,
新能源車感測器的數量約1,000顆~2,000顆。
興勤為保護元件專業生產廠商,主要產品為熱敏電阻(NTC、CPTC)、壓敏電阻(MOV、MLV)及傳感器等產品,2020年產品結構可區分為熱敏電阻(40%)、壓敏電阻(35%)、傳感器sensor(22%)及其(3%)。終端應用領域多元,包含資訊、通訊、家電、消費性電子、照明設備、工業電子、汽車等。主要生產基地以台灣(貼片型產品)及中國(插件型產品)為主。
法人報告部分截錄》
1.市場預期NB 需求減緩,公司NB相關訂單不減反增:公司接單供不應求,訂單能見度看到2021年底,產能滿載,產品交期4週~8週。興勤主力產品應用為資訊與通訊應用(營收占比46%),儘管市場預期Chromebook今年下半年需求下降導致NB出貨下修,然公司NB相關訂單依然穩定,甚至略有增加。
2.今年第2季營收、淨利創歷史新高:公司今年第2季營收19億6,000萬元,季增11.46%,年增30.82%,季營收創歷史新高。毛利率上升到45.24%(相較今年第1季毛利率38.73%),毛利率未及2020年水準的原因來自於2020 年中國廠因COVID-19 有中國政府補貼,故2020年毛利率達到45.85%,若排除補貼影響,今年第2季毛利率較2020年為佳。業外因匯兌損失影響較多,但淨利仍創歷史新高。
3.高雄三廠建設中,SMD NTC持續擴產:台灣主要生產SMD產品,產值約占公司整體20%,營收約占50%。高雄三廠建設中,預期2022年底完工,完工前先於一廠擴充產能,目前NTC月產能已較2020年提升50%,2022年預期再提升30%以上。預期隨擴充產能釋放挹注營收。
4.預估2022年營收88億7,900萬元,淨利21億300萬元,EPS 16.42元:今年下半年訂單依然供不應求,因有增加設備提高產能,我們認為下半年營收優於上半年。預估2021年營收76億6,400萬元,年增29.46%,淨利17億3,800萬元,年增25.51%,
EPS XX元。
展望後市,因NTC產能持續擴充,預期2022 年營收88億7,900萬元,年增15.85%,淨利21億300萬元,年增20.97%, EPS XX元。
礙於法說 FB許多數字不方便透漏
詳細想了解更多可以參考隊長的網路研究訂閱跟專屬Line群喔
再麻煩大家多多按讚分享,
您的支持與鼓勵是我最大的原動力,
非常感謝!
------
🏆【張捷主流產業選股術 數位訂閱】
✔️主頁 → https://reurl.cc/NX3jke
🏆【2021張捷產業冠軍班 週二晚上課程】
✔️冬季現場班(10~12月)→ https://reurl.cc/Ag3GpY
✔️冬季直播班(10~12月)→ https://reurl.cc/qmYMog
apple eps 2020 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
สรุปประเด็นจากกองทุนบัวหลวง “กางกลยุทธ์ พิชิตหุ้นสหรัฐฯ”
BBLAM x ลงทุนแมน
ช่วงเวลาที่ผ่านมา คงไม่มีตลาดหุ้นไหนสามารถทำผลงานได้โดดเด่น อย่างตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
ที่ทำให้นักลงทุนสัมผัสได้ถึงความร้อนแรง จนเกิดคำถามว่า หลังจากนี้ โอกาสของหุ้นสหรัฐอเมริกาจะเป็นอย่างไร ?
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ลงทุนแมน ร่วมพูดคุยกับ 2 ผู้เชี่ยวชาญจากกองทุนบัวหลวง
คือ คุณพูนสิน เพ่งสมบูรณ์ AVP, Portfolio Solutions
และ คุณนวรัตน์ เจียมกิจรุ่ง SVP, Product Development
ถึงประเด็นสำคัญในการลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลานี้
เรื่องราวสำคัญที่นักลงทุนควรรู้ จะมีอะไรบ้างนั้น ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟังเป็นข้อ ๆ แบบเข้าใจง่าย
1. ภาพรวมของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ?
ความร้อนแรงของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ
- นโยบายการเงินการคลัง ที่สามารถส่งต่อไปยังภาคธุรกิจ และภาคการบริโภคได้จริง
- การกลับมาของภาคธุรกิจ ทั้งจากกลุ่มธุรกิจที่เติบโต และกลุ่มธุรกิจที่ฟื้นตัวจากปีก่อน
ประเด็นที่ต้องจับตาต่อจากนี้คือ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่ช่วง Mid Cycle ซึ่งแปลว่า เราอาจจะไม่ได้เห็นการปรับตัวขึ้นแรง ๆ ของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาเหมือนในช่วงที่ผ่านมา
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนจากนี้ไป จึงต้องมีการคัดเลือกหุ้นรายตัว รายกลุ่มอุตสาหกรรมให้มากขึ้น
2. ความน่าสนใจของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ตรงไหน ?
ย้อนกลับไปช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาพบปัญหาระหว่างทางมาโดยตลอด
ไม่ว่าจะเป็น สงครามการค้ากับจีน หรือผลกระทบจากวิกฤติโควิด 19 ประกอบกับการเติบโตของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาที่เริ่มตั้งแต่ปี 2009 ก็ดูเหมือนจะจบรอบไปแล้วในปีที่ผ่านมา
ถ้าดูตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ปี 2020 ออกมา -30% แต่ที่น่าสนใจก็คือ สหรัฐอเมริกาฟื้นตัวกลับมาได้ค่อนข้างเร็ว โดยเห็นได้จาก GDP ไตรมาส 3 ปี 2020 ปรับตัวขึ้นกลายเป็น +33%
และถ้าหากสังเกตดัชนี S&P 500 ก็ยิ่งฟื้นตัวแรงไม่แพ้กัน
โดยใช้เวลาฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด 19 แค่ 1 เดือนเท่านั้น และก็ยังทำ New High ต่อเนื่อง อย่างในปี 2021 นี้ก็ +20% จากต้นปีอีกด้วย
ซึ่งต่างไปจากวิกฤติซับไพรม์ปี 2007 ที่ต้องใช้ระยะเวลาฟื้นตัวกว่า 18 เดือน แต่เมื่อฟื้นตัวกลับมาได้ ก็ไปต่อได้ดีเช่นกัน
ดังนั้น จุดที่น่าสนใจของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา เมื่อสังเกตจาก 2 วิกฤติที่ผ่านมาก็คือ เมื่อสหรัฐอเมริกาประสบภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจแล้ว มักจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว และก็ดีกว่าเดิมเสมอ
3. แล้วจุดขับเคลื่อนสำคัญ ที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาฟื้นตัวได้เร็ว คืออะไร ?
ปัจจัยที่ 1 คือ อำนาจทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ผ่าน 2 เครื่องมือสำคัญ นั่นคือ
- นโยบายทางการเงิน ที่จะช่วยให้ตลาดการเงินของสหรัฐอเมริกายังคงดำเนินต่อไปได้ โดยการซื้อสินทรัพย์ต่าง ๆ ในตลาด เพื่อพยุงราคาไม่ให้ถูกเทขาย
เช่น พันธบัตรรัฐบาล, Mortgage-Backed Securities (ตราสารทางการเงินที่มัดรวมสินเชื่อบ้านเข้าด้วยกัน โดยมีสถาบันการเงินเป็นคนกลางจับคู่ระหว่างผู้กู้ยืมและนักลงทุน), หุ้นกู้ในกลุ่ม Fallen Angels ที่ถูกปรับลดระดับเครดิตต่ำกว่า BBB (Non-Investment Grade)
- นโยบายการคลัง ที่จะช่วยเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา
เช่น การอัดฉีดเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐไปให้ชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากการว่างงาน
เนื่องจากโครงสร้าง GDP สหรัฐอเมริกามาจากภาคการบริโภค 70%
ดังนั้น หากชาวอเมริกันกลับมาบริโภคได้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็จะกลับคืนมาด้วย
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ทั้ง 2 นโยบายที่ว่านี้ คงจะมีแต่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น ที่สามารถทำได้
หากเป็นประเทศอื่น ๆ เราคงเห็นปัญหาตามมาอีกมากมาย เช่น ประเทศไทยที่มีสัดส่วนการบริโภคแค่ 1 ใน 4 ถ้าหากเราอัดฉีดเม็ดเงินเช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาค่าเงินบาทอ่อนหรือปัญหาเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นแรง เป็นผลมาจากการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่มากเกินไป
โดยเหตุผลที่สหรัฐอเมริกาสามารถทำเช่นนี้ได้ เพราะความเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจโลกครองสัดส่วน 1 ใน 4 ของมูลค่า GDP โลก และเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ก็ยังเป็นเงินสกุลหลักของการค้าระหว่างประเทศ
ปัจจัยที่ 2 คือ โครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งและหลากหลาย ส่งผลให้ภาพรวมฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
หากสังเกตดัชนี S&P 500 จะพบว่า Market Cap. ของกลุ่มเทคโนโลยี 27% สูงเป็นอันดับที่ 1 ถัดมาจะเป็นกลุ่ม Health Care 13% และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย 12% ล้วนเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต
ที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเราขึ้นเรื่อย ๆ เสมือนเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิตคนเรา และหลากหลายกลุ่มเทคโนโลยีอนาคตอย่าง Innovation, FinTech, Digital Advertising ยังมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ การจ้างงาน และการแข่งขันในอนาคตอีกด้วย
นอกจากนี้ วิกฤติโควิด 19 ยังเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของสินค้าเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เช่น การช็อปปิงออนไลน์, การดูวิดีโอสตรีมมิงแทนการเข้าโรงภาพยนตร์
ขณะที่ภาคธุรกิจเอง ก็หันมาให้ความสนใจ Digital Advertising มากกว่าป้ายบิลบอร์ดเดิม ๆ ส่งผลให้ลดต้นทุน, ลดขั้นตอน Supply Chain ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งหมดนี้ จึงทำให้เชื่อว่า หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐอเมริกาจะยังเติบโตตามผลประกอบการต่อไปได้
4. หลังจากการฟื้นตัว ก้าวต่อไปคือการเข้าสู่ Mid Cycle ?
เมื่ออัตราการว่างงานลดลง ซึ่งคาดว่า 8-10 เดือนข้างหน้า ก็จะสามารถกลับเข้าสู่ระดับปกติก่อนเกิดวิกฤติโควิด 19 ได้ ขณะเดียวกัน Fed ก็เริ่มส่งสัญญาณถอนคันเร่งมาตรการกระตุ้น ด้านสวัสดิการว่างงานก็เริ่มลดลง สะท้อนได้ว่า สหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่ช่วง Mid Cycle
ดังนั้น เราน่าจะไม่ได้เห็นสภาพคล่องท่วมตลาดเหมือนอย่างเคยอีกต่อไป
กลยุทธ์การลงทุนในช่วง Mid Cycle จึงต้องเลือกลงทุนหุ้น Growth เช่น หุ้นเทคโนโลยี
หรือลงทุนหุ้นที่จะได้รับผลประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ ในโครงการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังผลักดันอยู่ในขณะนี้ เช่น
- American Rescue Plan วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป็นสวัสดิการชดเชยการว่างงาน
- Infrastructure Bill วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ
- American Families Plan วงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมนุษย์
- American Jobs Plan วงเงิน 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน, Health Care, อุตสาหกรรม EV, พลังงานสะอาด
- U.S. Innovation and Competition Act วงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อแข่งขันกับจีน
หากโครงการเหล่านี้ได้รับการอนุมัติทั้งหมด จะกลายเป็นเม็ดเงินพัฒนาเศรษฐกิจที่เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ที่จะช่วยพัฒนาประเทศระยะยาว 5-10 ปี เลยทีเดียว
5. ตอนนี้ Master Fund ระดับโลก มองการลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกาอย่างไร ?
หลังจากที่กองทุนบัวหลวงได้พูดคุยกับผู้จัดการกองทุน J.P. Morgan หนึ่งใน Master Fund ระดับโลก
พบว่า หากเป็นการลงทุนระยะกลาง J.P. Morgan กำลังพุ่งเป้าไปที่กลุ่มธุรกิจที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจหลังจากผ่านวิกฤติโควิด 19 เช่น
- กลุ่มธุรกิจ Reopening ที่เชื่อว่าจะกลับมาฟื้นตัว และได้รับประโยชน์จากความต้องการซื้อที่อัดอั้นมาจากวิกฤติโควิด 19 เช่น การจองโรงแรม, การเช่ารถ, ร้านอาหาร
- กลุ่ม Health Care ทั้งในแง่ของการรับมือกับโควิด 19, การพัฒนาวัคซีน, การวิจัยเชื้อกลายพันธุ์ และพฤติกรรมพร้อมจ่ายของคนเราเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง จึงมองว่ากลุ่มยา และกลุ่ม Biotech ยังเติบโตได้ดี
- กลุ่มพลังงานสะอาด จากการผลักดันนโยบาย EU Green Deal ขณะที่ต้นทุนของพลังงานลม และพลังงานโซลาร์เซลล์ ที่ถูกลงมากเมื่อเทียบกับพลังงานดั้งเดิม รวมทั้งกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์กักเก็บพลังงานก็น่าสนใจ
ขณะเดียวกัน หากเป็นการลงทุนระยะยาว J.P. Morgan กำลังจับตากลุ่มธุรกิจที่สอดรับกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในระยะ 5-10 ปีข้างหน้า
ซึ่งนอกจาก 3 กลุ่มข้างต้นแล้ว ก็ยังมีกลุ่มเครื่องจักรอัตโนมัติ หรือกลุ่ม Smart ต่าง ๆ เช่น Smart Home, Smart TV ที่กำลังเติบโตตามโลกอนาคต อีกด้วย
6. กลยุทธ์การลงทุนหุ้น Growth ในช่วงเวลานี้ ?
กลยุทธ์การวิเคราะห์ลงทุนหุ้น Growth ของ J.P. Morgan จะออกเป็น 2 รูปแบบ นั่นคือ
- รูปแบบ Bottom Up คือการวิเคราะห์หุ้นรายตัวเป็นหลัก
- รูปแบบ Micro Focus คือการวิเคราะห์ลงรายละเอียดเล็ก ๆ เพราะเชื่อว่าจุดเล็ก ๆ จะนำไปสู่ความแตกต่างจากบริษัทอื่นอย่างมีนัยสำคัญได้ เช่น Facebook ที่กำลังได้รับประโยชน์จากโฆษณาออนไลน์อย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายคือ การค้นหาหุ้นสหรัฐอเมริกาที่กำลังเติบโตมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ภายใต้ 3 ลักษณะสำคัญคือ
- ธุรกิจที่มีผลต่อการบริโภค หรือการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป
- ธุรกิจที่มีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว มีกำไรที่แข็งแกร่ง
- ธุรกิจที่มีการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น (Momentum) ทิศทางเชิงบวก ดังนั้นต้องรู้จักทำใจให้นิ่งเพื่อรอจังหวะ Momentum ที่ดีได้
อีกหนึ่งกลยุทธ์การลงทุนที่สำคัญก็คือ การปรับพอร์ตลงทุนอยู่เสมอ โดยจะลดน้ำหนักหุ้นที่มีราคาปรับตัวขึ้นมานานหลายปี และตลาดรับรู้ข่าวทั้งหมดแล้ว
เช่น กลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Microsoft, Apple ถูกลดสัดส่วนตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อนำเงินไปลงทุนหุ้นที่จะเป็น “Big Winner” ตัวต่อไป แต่ก็ไม่ได้ขายหมดทั้งพอร์ต เพราะยังมองว่าเป็นธุรกิจที่ดีระยะยาว
นอกจากนี้ ด้วยความเป็นกองทุนแบบ Active ของ J.P. Morgan ยังมองเห็น 2 กลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจคือ
- กลุ่มการเงิน โดยจะลงทุนทั้งสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และกลุ่ม Online Payment
- กลุ่มเทคโนโลยี 5G และ EV โดยที่มองลงลึกไปถึง “ทองแดง” ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของกลุ่มเทคโนโลยี จึงเข้าไปลงทุนบริษัท Freeport-McMoRan หนึ่งในธุรกิจเหมืองแร่ทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในโลก
7. ตัวอย่างธุรกิจที่เข้าข่ายหุ้น Growth ที่น่าสนใจ ?
ธุรกิจในกลุ่ม Digital Advertising เช่น Snap Inc. เจ้าของแอปพลิเคชัน Snapchat ที่มียอดผู้ใช้งานเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีการขยายฐานผู้ใช้งานไปยังประเทศอินเดีย ทำให้มีโอกาสเติบโตในเรื่องของเม็ดเงินโฆษณาได้อีกมาก ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา รายได้ของ Snapchat ก็เติบโตเฉลี่ยปีละ 46%
ธุรกิจในกลุ่มต่อมาก็คือ Online Payment เช่น PayPal ที่ได้ประโยชน์จากการใช้ชีวิตในยุค New Normal และตอบโจทย์ในการชำระเงินยุคใหม่
ซึ่งจากผลการดำเนินงานในไตรมาสล่าสุด PayPal มีจำนวนบัญชี Active User เติบโต 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่จำนวนธุรกรรมเติบโต 40% จากปีก่อนหน้า
ธุรกิจในกลุ่มสุดท้ายก็คือ ธุรกิจนอกกลุ่มเทคโนโลยี เช่น John Deere ผู้ผลิตและจำหน่ายรถแทรกเตอร์ อุปกรณ์การเกษตรที่นำเทคโนโลยีมาใช้กับการเกษตร ตอบโจทย์การเกษตรสมัยใหม่และเทรนด์ความยั่งยืน
หากสหรัฐอเมริกามีการเก็บภาษีจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก็จะเป็นประโยชน์โดยตรงกับ John Deere
ซึ่งหุ้น 3 ตัวนี้ ก็เป็นหุ้นที่ J.P. Morgan ลงทุนเป็น Top Holding อีกด้วย
8. ตอนนี้หุ้น Growth แพงไปหรือยัง ?
ในมุมมองของกองทุนบัวหลวง คิดว่าหุ้น Growth ยังไม่แพงเกินไป ถึงแม้ว่าจะผ่านช่วงสูงสุดไปแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสเติบโตได้อยู่
โดยหากมาดูในส่วนของค่ากลางของ P/E Ratio S&P 500 พบว่า อยู่ที่ 20 เท่า สะท้อนให้เห็นว่า ยังมีโอกาสที่เรายังสามารถหาหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตในราคาที่สมเหตุสมผลได้อยู่
และที่ผ่านมาดัชนี S&P 500 ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ P/E ทยอยปรับลดลง ซึ่งมีสาเหตุมาจากกำไรของบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยในปี 2021 มีการคาดการณ์ว่ากำไรของบริษัทใน S&P 500 จะโต 60% ในขณะที่ในปี 2022 S&P มีการคาดการณ์ว่ากำไรจะโตต่ออีก 15% จากปี 2021
จากตรงนี้ก็จะเห็นได้ว่า ยังมีอีกหลายธุรกิจที่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อยู่
9. ผลตอบแทนการลงทุน ด้วยกลยุทธ์แบบ J.P. Morgan เป็นอย่างไร ?
จากกลยุทธ์ Active Management ที่เน้น Micro Focus ทำให้กองทุน JPM US Growth ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกา มีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างดีมาอย่างต่อเนื่อง
หากเรามาดูผลการดำเนินงานของกองทุน JPM US Growth จะพบว่า ถ้าดูย้อนหลังไป 3 ปี เฉลี่ยต่อปีแล้ว ผลตอบแทนจะเท่ากับ 27% สูงกว่าเมื่อเทียบกับ Benchmark ที่เป็น Russell 1000 ที่เน้นเฉพาะหุ้นเติบโต ซึ่งถ้าย้อนหลัง 5 ปี ผลการดำเนินงานก็ดีกว่าเช่นกัน
เมื่อมาดูการจัดอันดับของ Morningstar พบว่ากองทุน JPM US Growth อยู่ใน First Quartile คือเป็นหนึ่งในกองทุนที่ทำผลการดำเนินงานได้ดีอยู่ในเกณฑ์ดีที่สุดในกลุ่มอีกด้วย
หากมาดูด้าน Valuation ของกองทุน JPM US Growth จะเห็นว่า กองทุนนี้มี P/E Ratio ที่ต่ำกว่า Benchmark แต่มีอัตราการเติบโตของกำไร (%EPS Growth) สูงกว่า Benchmark และ S&P 500
10. เราจะลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกาในรูปแบบกองทุน ได้อย่างไร ?
กองทุน B-USALPHA เป็นกองทุน Feeder Fund ที่ลงทุนในกองทุนหลัก คือ JP Morgan US Growth Fund ไม่ต่ำกว่า 80%
ซึ่ง JP Morgan US Growth Fund เป็นกองทุนแนว Active Management เน้นลงทุนในหุ้นที่เติบโตสูงกว่าที่ตลาดมองไว้
และในส่วนที่เหลือผู้จัดการกองทุนของบัวหลวง ก็อาจลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกาที่น่าสนใจเป็นรายตัว
ซึ่งน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีระยะยาวได้ เหมือนที่ทำกับ B-FUTURE และ B-CHINE-EQ
กองทุนนี้ ยังมีนโยบายการจ่ายเงินปันผล เพราะปัจจุบันอยู่ในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ผู้ลงทุนส่วนใหญ่จึงหันมาหาสินทรัพย์เสี่ยง หรือหุ้น กันมากขึ้น การจ่ายเงินปันผลจะช่วยให้ผู้ลงทุนมีเงินระหว่างทาง ไม่ต้องคอยดูจังหวะการขายทำกำไร และสามารถลงทุนได้นานขึ้น
11. สุดท้ายแล้ว แนวทางของกองทุน B-USALPHA จะช่วยบริหารพอร์ตการลงทุนภาพรวมของคุณได้อย่างไร ?
ในมุมมองการจัดพอร์ตลงทุน การกระจายสินทรัพย์เสี่ยงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ในมุมมองของกองทุนบัวหลวงคือ การจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยง ทั้งในส่วนสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและเสี่ยงสูง
ในส่วนสินทรัพย์เสี่ยงสูงที่เป็นหุ้นทั่วโลก ส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การเอามาเป็นแกนหลักของพอร์ต (Core Port) กับเอาเป็นตัวเร่งในแต่ละธีม (Thematic) โดยส่วนที่เป็นแกนหลัก ควรที่จะให้มีการกระจายหลายประเทศ และหลายกลุ่มอุตสาหกรรม
แล้วควรลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกาเท่าไร ? หากอ้างอิงจาก MSCI Index มีสัดส่วนบริษัทในสหรัฐอเมริกา กว่า 58% อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับความชอบ ความเสี่ยงที่รับได้ และความเข้าใจของแต่ละคนด้วย
เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดใหญ่ที่พัฒนาแล้ว มีผลการดำเนินงานดีที่สุดใน 10 ปีที่ผ่านมา คือปีละ 14% และมีความผันผวนต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
สรุปได้ว่า การลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกา ถือว่าเป็นของต้องมีในพอร์ต และกลยุทธ์การลงทุนแบบ Active ในหุ้นเติบโต ย่อมมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่ดีด้วย นั่นเอง..
apple eps 2020 在 MoneyDJ理財網 Youtube 的最讚貼文
宏碁旗下3C通路代理商,股號6776的展碁國際,預計3月底興櫃轉上市,展碁代理產品橫跨商用以及家用市場,產品除了各大PC品牌之外,也代理家電、遊戲機等產品,包括近兩年銷售火熱的任天堂遊戲機Switch,也是由展碁取得台灣獨家代理。隨著產品多元分散策略逐步奏效,並獲得品牌廠的信賴,帶動展碁近年營收、獲利表現逐年成長,2020年EPS達到2.63元,創下歷史新高。
MoneyDJ專訪展碁總經理林佳璋,林佳璋曾任職宏碁零組件事業部,以及宏碁台灣區總經理,對於母集團宏碁做事風格與規畫相當熟悉,也對於展碁如何在競爭激烈的代理市場走出自己的路,以及上市之後的布局,有長遠的規劃,展碁希望走出傳統3C代理商的模式,透過數位化能力加深原廠與通路的合作關係,打造成通路大平台。
#宏碁 #展碁 #ADOBE #任天堂 #超微 #微軟 #Apple #羅技 #LG #惠而浦 #飛利浦 #BenQ #日立 #SHARP #3M #林佳璋 #代理 #3C通路 #東南亞 #PC #軟體 #家電
apple eps 2020 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文
เปิดตัวในไทย ราคา The new Toyota Yaris / Ativ Thailand 2020-2021 โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ประเทศไทย รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ล่าสุด Sport Premium / Sport / Entry
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำอีโคคาร์แฮทช์แบ็ค YARIS และ อีโคคาร์ซีดาน ATIV “รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่” ที่ปรับดีไซน์ใหม่ ให้โฉบเฉี่ยว สไตล์สปอร์ตพรีเมียมมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชันความปลอดภัยที่ครบครัน พร้อมด้วยการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากอาเซียน เอ็นแคป (ASEAN NCAP) โดย YARIS สามารถสร้างยอดขายสูงสุด ในตลาดอีโคคาร์แฮทช์แบ็ค ด้วยยอดขายสะสม มากกว่า 256,000 คัน และ ATIV มียอดขายสะสม ในตลาดรถยนต์อีโคคาร์ซีดานของประเทศไทย มากกว่า 90,000 คัน
YARIS และ ATIV สามารถตอบโจทย์ และตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ ด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม ฟังก์ชันสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก ของรถยนต์โตโยต้า (Toyota Safety Sense) ที่เหนือกว่ารถยนต์ระดับเดียวกัน โดยเฉพาะระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (LDA) ที่มีครั้งแรก ในตลาดรถยนต์นั่งอีโคคาร์
ความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)
- ใหม่…ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PRE-COLLISION SYSTEM) (เฉพาะ YARIS และ ATIV รุ่น Sport Premium)
- ใหม่…ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (LANE DEPARTURE ALERT) (เฉพาะ YARIS และ ATIV รุ่น Sport Premium)
- กล้องบันทึกภาพหน้า-หลัง...บันทึกภาพความเคลื่อนไหว ทั้งขณะเดินทาง และขณะดับเครื่องยนต์ โดยเซ็นเซอร์สามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือน และบันทึกภาพกรณีพบสิ่งผิดปกติ (เฉพาะ YARIS และ ATIV รุ่น Sport Premium)
YARIS รุ่น Sport Premium หลังคาดำ เกียร์อัตโนมัติ ราคา 684,000 บาท
YARIS รุ่น Sport Premium เกียร์อัตโนมัติ ราคา 679,000 บาท
YARIS รุ่น Sport เกียร์อัตโนมัติ ราคา 609,000 บาท
YARIS รุ่น Entry เกียร์อัตโนมัติ ราคา 549,000 บาท
ATIV รุ่น Sport Premium เกียร์อัตโนมัติ ราคา 674,000 บาท
ATIV รุ่น Sport เกียร์อัตโนมัติ ราคา 599,000 บาท
ATIV รุ่น Entry เกียร์อัตโนมัติ ราคา 539,000 บาท
รุ่น Sport Premium … เพิ่มความปลอดภัย
- ภายนอกดีไซน์สปอร์ต เร้าใจ
- เสาอากาศครีบฉลาม (Shark Fin)…โฉบเฉี่ยว ทันสมัยในแบบที่เป็นตัวเอง
- หลังคาสีดำ Attitude Black Mica…มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นไม่เหมือนใคร(เฉพาะ YARIS)
- ภายในพรีเมียม หรูหรา พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
- วัสดุหุ้มเบาะนั่งแบบหนังและหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยด้ายสีฟ้า สำหรับ YARIS และตกแต่งด้วยด้ายสีเทา สำหรับ ATIVพร้อมเบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต…หรูหราทุกสัมผัส รองรับทุกสรีระของผู้ขับขี่
- เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.7 นิ้ว พร้อม AUX USB Bluetooth และ รองรับ Apple CarPlay...เทคโนโลยีที่พร้อมให้สามารถใช้งานได้ง่ายและชัดเจนกว่าที่เคย
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (Push Start) และระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry)...สามารถควบคุมการล็อก-ปลดล็อกประตูอย่างง่ายดาย และสตาร์ทเครื่องยนต์เพียงปลายนิ้วสัมผัส
- มาตรวัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว…เทคโนโลยีที่พร้อมให้สามารถใช้งานได้ง่ายและชัดเจนกว่าที่เคย
- กล่องเก็บของที่คอนโซลกลางพร้อมฝาปิด หุ้มหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา…หรูหรา พรีเมียม
- ความสะดวกสบายที่ครบครัน
- ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและโทรศัพท์บนพวงมาลัย พร้อมปุ่มควบคุมจอแสดงผลการขับขี่…ควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
- ระบบเซ็นทรัลล็อก พร้อมระบบ Speed Auto Lock…ปลอดภัยในทุกการเดินทาง
รุ่น Sport ... ตอบโจทย์ความคุ้มค่ากว่าเดิมพร้อมชุดตกแต่งแท้จากโรงงาน
- ภายนอกดีไซน์สปอร์ต เร้าใจ
- Aero packages…ปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า และพับเก็บอัตโนมัติ พร้อมไฟเลี้ยว...เท่ห์ สะดวกสบาย
- ภายในพรีเมียม พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
- มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID...ชัดเจนทุกข้อมูลการเดินทาง
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ...สะดวกสบาย เลือกปรับอุณหภูมิได้อย่างเหมาะสม
- เบาะหนังสังเคราะห์ใน YARIS และ เบาะผ้าผสมหนังสังเคราะห์ใน ATIV…หรูหราทุกสัมผัส
- พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง...หรูหราทุกสัมผัส
- ระบบความปลอดภัยที่มากกว่า
- กล้องมองหลัง...มั่นใจ ถอยจอดได้อย่างแม่นยำ
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบเตือนการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System)...ป้องกันการปลอมแปลงกุญแจ ไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ เมื่อรหัสกุญแจและเครื่องยนต์ไม่ตรงกัน ปลอดภัยไร้กังวล
รุ่น Entry … สามารถเป็นเจ้าของได้ด้วยราคาเบาๆ
- ภายนอกสปอร์ต ดีไซน์โดดเด่น
- ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์...เพิ่มทัศนวิสัยที่ชัดเจน
- ภายในตอบโจทย์การใช้งาน พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
- พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS พร้อมสวิตช์ควบคุมโทรศัพท์ และเครื่องเสียง...ควบคุมง่าย สั่งงานได้สะดวกสบายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
- เครื่องเสียงวิทยุ AM/FM พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX…สร้างความบันเทิง ตลอดการเดินทาง
- ระบบเชื่อมต่อด้วย Bluetooth...รองรับโทรศัพท์และการเล่นเพลง
- เบาะผ้าลายใหม่…สวย สะดุดตา
- ระบบความปลอดภัย มาตราฐานที่ครบครัน
- ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System)
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist Control)
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control)
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 7 ตำแหน่ง
- โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA
apple eps 2020 在 IEObserve 國際經濟觀察is on Facebook. To connect with ... 的美食出口停車場
下面這個圖,是APPLE在外流通股數的變化,也可以看出蘋果buyback的龐大規模,基本上是推升EPS和股價的一大動力,在最新一集的《IEO看什麼》就有談到 ... ... <看更多>
apple eps 2020 在 Is Meta Stock A Buy? Social Media Giant Has A New Ticker ... 的美食出口停車場
Apple Costs Meta $10 Billion. Facebook has been warning since late 2020 about the challenge created by Apple's privacy change. But the shift ... ... <看更多>