(รีโพสต์) ช่วงนี้ มี "น้ำโฮมีโอพาธีย์" ที่อ้างว่าใช้รักษาป้องกันโรคโควิด-19 ได้ (ต้องกระแทกขวดกับฝ่ามือ ใส่พลังลงไปด้วยนะ) ออกมาแจกจ่าย-ขายกันหนักมาก
ทั้งที่มันเป็นเรื่องลวงโลกมากๆ ครับ แต่ ก. สาธารณสุข ดันสนับสนุนอยู่ .. ยังไงถ้าใครได้มา ก็ไม่ควรหลงเชื่อ หลงใช้มันนะครับ !!
ขอเอาบทความเก่า ที่อธิบายเรื่องนี้ (ตอนนั้น เค้าอ้างเอามารักษาโรคไข้เลือดออก) มาให้อ่านอีกทีนะครับ
--------
(บทความเก่า https://m.facebook.com/OhISeebyAjarnJess/posts/638594226623634?locale2=ko_KR)
"โฮมีโอพาธีย์ เป็น pseudoscience วิทยาศาสตร์ลวงโลก กระทรวงสาธารณสุขไม่ควรสนับสนุนครับ"
หลังจากที่เดือนก่อน รู้สึกแย่กับการที่ วช. ให้ทุนสนับสนุนสถาบันการศึกษาหนึ่ง ในการวิจัยลวงโลก เกี่ยวกับ "พลังออร่า" จากร่างกายของประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
คราวนี้มาเจอว่า กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนให้หน่วยงานของตนคือ กรมการแพทย์แผนไทย วิจัย "ยาโฮมีโอพาธีย์สำหรับป้องกันไข้เลือดออก" แถมจะเอาไปแจกจ่ายด้วย อันนี้หนักเลยนะครับ เพราะนอกจากจะเป็นวิทยาศาสตร์ลวงโลกแล้ว ยังไปยุ่งเกี่ยวกับสุขภาพและการเจ็บป่วยของประชาชนด้วยนะ
สูตรยาโฮมีโอพาธีย์ ที่ว่านี้ คือ เค้าไปเอาสารจากสมุนไพรฝรั่งชื่อ ยูพาโทเรียม เพอร์ฟอเลียทุม (Eupatorium perfoliatum) มาเจือจางมากๆๆๆ เจือจางด้วยน้ำในสัดส่วน 1:100 จำนวน 200 ครั้ง (เท่ากับเจือจางเหลือ 1/100 ยกกำลัง 200 เท่า) แล้วอ้างว่า เมื่อหยดใส่ปากแค่ 2-3 หยด จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ 89.9 % นานถึง 3-4 เดือน !!
ปรกติแล้ว พืชยูพาโทเรียม เพอร์ฟอเลียทุม เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ไปทางลดไข้ แก้ตัวร้อน เสริมภูมิคุ้มกัน คล้ายๆ ฟ้าทะลายโจร แต่ไม่มีรายงานวิจัยใดๆ บอกว่ามันรักษาหรือป้องกันโรคไข้เลือดออกได้
แล้วงงกันมั้ยว่า ถึงสารสมุนไพรตัวนี้จะมีฤทธิ์ป้องกันไข้เลือดออกได้จริง แต่มันถูกเจือจางมากๆๆ ขนาดนั้นแล้ว มันจะออกฤทธิ์เพียงพอได้อย่างไร
คำตอบ คือ หลักการเรื่องโฮมีโอพาธีย์นั้นเป็นกลุ่มความเชื่อประหลาด ที่ไม่ใช่เรื่องการเอาสมุนไพรมารักษาโรคโดยตรง แต่คิดว่าการให้สารพวกนี้เข้าไปในปริมาณน้อยๆๆ จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ต่อต้านกับโรคได้ คล้ายๆ กับเป็นเรื่องการทำวัคซีนนั่นแหละ
ซึ่งหลักการนี้ ในต่างประเทศหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศเรียบร้อยแล้วว่า เป็นเรื่องไร้สาระ หรือเป็นวิทยาศาสตร์เรื่องโลก pseudoscience ที่ห้ามใช้รักษาคนไข้ในประเทศของตน
ดังนั้น การที่ ก. สาธารณสุขมาส่งเสริมเรื่องที่ลวงโลกเช่นนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องถูกต้อง ... แถมการเอามาใช้กับประชาชนจริงๆ ก็ยิ่งเป็นอันตราย เนื่องจากทำให้เกิดความประมาท เข้าใจผิดได้ว่า สามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกได้
นี่ยังไม่นับว่า ถ้าไปดูในรายงานวิจัยของกรมการแพทย์แผนไทย ที่ทำมาก่อนหน้านี้ ก็จะเจอช่องโหว่เยอะมาก เรื่องความแปรปรวนลำเอียงในด้านตัวอย่างประชากร และความผิดพลาดในการวิเคราะห์ข้อมูล (ขนาดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกจริงๆ เขายังไม่เคลมว่ามีประสิทธิภาพขนาดนี้เลยครับ)
สรุปคือ อยากให้กระทรวงทบทวนนโยบายเรื่องนี้นะครับ อย่าสร้างความเสี่ยงให้ประชาชนโดยไม่จำเป็น จากแค่ความเชื่อผิดๆในด้าน pseudoscience แบบนี้
同時也有49部Youtube影片,追蹤數超過53萬的網紅อาสาพาไปหลง - asapapailong,也在其Youtube影片中提到,3จังหวัดชายแดนใต้EP.8 ปิดซีซั่น!! วัยรุ่นปัตตานี เค้าปาร์ตี้กันยังไง?! ปัตตานี Night life!! #อาสาพาไปหลง #ปัตตานี...
「3จังหวัดชายแดนภาคใต้」的推薦目錄:
- 關於3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳貼文
- 關於3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
- 關於3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 Facebook 的最讚貼文
- 關於3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 อาสาพาไปหลง - asapapailong Youtube 的最佳解答
- 關於3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 อาสาพาไปหลง - asapapailong Youtube 的最佳解答
- 關於3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 อาสาพาไปหลง - asapapailong Youtube 的最讚貼文
- 關於3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 รีวิวเที่ยว 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้!!! จะน่ากลัวอย่างที่เค้าว่าไหม??? 的評價
- 關於3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 งานราชการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ - Home - Facebook 的評價
3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
(รีโพสต์) ช่วงนี้ มี "น้ำโฮมีโอพาธีย์" ที่อ้างว่าใช้รักษาป้องกันโรคโควิด-19 ได้ (ต้องกระแทกขวดกับฝ่ามือ ใส่พลังลงไปด้วยนะ) ออกมาแจกจ่าย-ขายกันหนักมาก
ทั้งที่มันเป็นเรื่องลวงโลกมากๆ ครับ แต่ ก. สาธารณสุข ดันสนับสนุนอยู่ .. ยังไงถ้าใครได้มา ก็ไม่ควรหลงเชื่อ หลงใช้มันนะครับ !!
ขอเอาบทความเก่า ที่อธิบายเรื่องนี้ (ตอนนั้น เค้าอ้างเอามารักษาโรคไข้เลือดออก) มาให้อ่านอีกทีนะครับ
--------
(บทความเก่า https://m.facebook.com/OhISeebyAjarnJess/posts/638594226623634?locale2=ko_KR)
"โฮมีโอพาธีย์ เป็น pseudoscience วิทยาศาสตร์ลวงโลก กระทรวงสาธารณสุขไม่ควรสนับสนุนครับ"
หลังจากที่เดือนก่อน รู้สึกแย่กับการที่ วช. ให้ทุนสนับสนุนสถาบันการศึกษาหนึ่ง ในการวิจัยลวงโลก เกี่ยวกับ "พลังออร่า" จากร่างกายของประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
คราวนี้มาเจอว่า กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนให้หน่วยงานของตนคือ กรมการแพทย์แผนไทย วิจัย "ยาโฮมีโอพาธีย์สำหรับป้องกันไข้เลือดออก" แถมจะเอาไปแจกจ่ายด้วย อันนี้หนักเลยนะครับ เพราะนอกจากจะเป็นวิทยาศาสตร์ลวงโลกแล้ว ยังไปยุ่งเกี่ยวกับสุขภาพและการเจ็บป่วยของประชาชนด้วยนะ
สูตรยาโฮมีโอพาธีย์ ที่ว่านี้ คือ เค้าไปเอาสารจากสมุนไพรฝรั่งชื่อ ยูพาโทเรียม เพอร์ฟอเลียทุม (Eupatorium perfoliatum) มาเจือจางมากๆๆๆ เจือจางด้วยน้ำในสัดส่วน 1:100 จำนวน 200 ครั้ง (เท่ากับเจือจางเหลือ 1/100 ยกกำลัง 200 เท่า) แล้วอ้างว่า เมื่อหยดใส่ปากแค่ 2-3 หยด จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ 89.9 % นานถึง 3-4 เดือน !!
ปรกติแล้ว พืชยูพาโทเรียม เพอร์ฟอเลียทุม เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ไปทางลดไข้ แก้ตัวร้อน เสริมภูมิคุ้มกัน คล้ายๆ ฟ้าทะลายโจร แต่ไม่มีรายงานวิจัยใดๆ บอกว่ามันรักษาหรือป้องกันโรคไข้เลือดออกได้
แล้วงงกันมั้ยว่า ถึงสารสมุนไพรตัวนี้จะมีฤทธิ์ป้องกันไข้เลือดออกได้จริง แต่มันถูกเจือจางมากๆๆ ขนาดนั้นแล้ว มันจะออกฤทธิ์เพียงพอได้อย่างไร
คำตอบ คือ หลักการเรื่องโฮมีโอพาธีย์นั้นเป็นกลุ่มความเชื่อประหลาด ที่ไม่ใช่เรื่องการเอาสมุนไพรมารักษาโรคโดยตรง แต่คิดว่าการให้สารพวกนี้เข้าไปในปริมาณน้อยๆๆ จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ต่อต้านกับโรคได้ คล้ายๆ กับเป็นเรื่องการทำวัคซีนนั่นแหละ
ซึ่งหลักการนี้ ในต่างประเทศหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศเรียบร้อยแล้วว่า เป็นเรื่องไร้สาระ หรือเป็นวิทยาศาสตร์เรื่องโลก pseudoscience ที่ห้ามใช้รักษาคนไข้ในประเทศของตน
ดังนั้น การที่ ก. สาธารณสุขมาส่งเสริมเรื่องที่ลวงโลกเช่นนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องถูกต้อง ... แถมการเอามาใช้กับประชาชนจริงๆ ก็ยิ่งเป็นอันตราย เนื่องจากทำให้เกิดความประมาท เข้าใจผิดได้ว่า สามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกได้
นี่ยังไม่นับว่า ถ้าไปดูในรายงานวิจัยของกรมการแพทย์แผนไทย ที่ทำมาก่อนหน้านี้ ก็จะเจอช่องโหว่เยอะมาก เรื่องความแปรปรวนลำเอียงในด้านตัวอย่างประชากร และความผิดพลาดในการวิเคราะห์ข้อมูล (ขนาดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกจริงๆ เขายังไม่เคลมว่ามีประสิทธิภาพขนาดนี้เลยครับ)
สรุปคือ อยากให้กระทรวงทบทวนนโยบายเรื่องนี้นะครับ อย่าสร้างความเสี่ยงให้ประชาชนโดยไม่จำเป็น จากแค่ความเชื่อผิดๆในด้าน pseudoscience แบบนี้
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1180004955815889&id=219186678564393
3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 Facebook 的最讚貼文
- ไม่อนุญาตให้มีการนำบทความทั้งหมดหรือบางส่วน ภาพนิ่งอื่นๆ Live และวิดีโอทั้งหมดที่อยู่ในเพจ ‘ตั้งแต่อดีตจนถึงอนาคต’ ไปผลิตซ้ำบนช่องทางของตัวเองไม่ว่าจะทางออนไลน์หรือออฟไลน์ ส่วนตัวหรือสาธารณะ **รวมถึงการนำไปสรุปใหม่ ตีความ วิเคราะห์ ที่ทำให้มีความผิดพลาดทางเนื้อหาแม้แต่นิดเดียว** ในที่นี่รวมไปถึงสำนักข่าวทั้งหมด จะมีผลทางกฏหมายทุกกรณี โดยทางเพจจะอนุญาตเพียงการ 'แชร์' คอนเท้นท์ทั้งหมดโดยตรงจากเพจเท่านั้น
- การนำไปใช้ หรือการแชร์ต่อจากการกระทำด้านบนจะมีผลทางกฏหมายเช่นกัน ยกเว้นจะได้รับอนุญาต
- การพิมพ์แสดงความเห็นใดๆที่เป็นการล่วงละเมิด สร้างความเกลียดชัง สร้างความเท็จ จะมีผลทางกฏหมาย
--------------
สวัสดีทุกคนค่ะ
มิ้นท์สบายดี ขอบคุณความห่วงใยจากทุกคนในเพจนะคะ วันนี้จะขอชี้แจงและตอบเรื่องทั้งหมดให้จบใน 18 คำถามนี้อย่างละเอียด เพื่อหลังจากนี้ให้พื้นที่กับเรื่องที่สำคัญกว่า และให้พื้นที่นี้ได้กลับมาเป็นพื้นที่สบายใจของทุกคนที่อยู่ด้วยกันเหมือนเดิมค่ะ :)
1. ทำไมถึงลบโพสท์?
2. เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น?
3. กลัวไหมเหตุการณ์เรื่องสนามบิน?
4. มานี่ใครช่วย มีเพื่อนด้วยหรือรบกวนคนอื่น?
5. เธอไม่เข้าใจความซับซ้อนของพื้นที่?
6. ทำไมมาเอง ไม่มากับกองกำลังต่างชาติ?
7. คอนเท้นท์หิวแสง? ทำไมเดินทางต้องอวด?
8. ไปอัฟกานิสถาน เพื่อไป Human Zoo?
9. การเดินทางไปเป็นการใช้ทรัพยากรของอัฟกานิสถาน ทำให้พวกเขาลำบาก?
10. ถ่ายรูปไกด์ ไกด์อันตราย?
11. ทำไม Live ที่อัฟกานิสถานแล้วดูมีความสุข?
12. ทำไมไม่ทำคอนเท้นท์ที่ไทย ทั้งๆที่บ้านตัวเองก็แย่พอกัน ทำไมไม่ช่วย ไม่Call Out?
13. อีโก้จัด?
14. ทำไมตอบนักการทูตแบบนั้น?
15. เรื่องการดำเนินคดีทางกฏหมาย
16. สิ่งที่น่าผิดหวัง...
17. มิ้นท์โลกสวยและไม่แคร์อะไร?
18. ต่อไปในพื้นที่ของ I Roam Alone
--------------
1. ทำไมถึงลบโพสท์?
การลบโพสท์ 2 โพสท์แรกเพราะมิ้นท์คิดว่าตัวเองใจร้อนไป ถ้าเราไม่ต้องการบรรยากาศที่ไม่ดีในเพจ เราก็ไม่ควรเป็นคนเริ่มเอง มิ้นท์เลยให้น้องลบอย่างรวดเร็ว โดยตอนนั้นยังไม่เห็นดราม่าสถานทูตใดๆ และหลังจากนั้นอีกแป็บเดียวก็ตัดสินใจให้น้องในทีมลบโพสท์ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยในช่วงที่มีความไม่แน่นอนนี้
หลังจากนั้นมิ้นท์ตัดสินใจอัพเดทสถานการณ์แค่กับคนใกล้ตัวเท่านั้น
1. เพื่อความปลอดภัยในสถานการณ์ช่วงนั้น
2. เพราะไม่ต้องการให้เกิดประเด็นอะไรขึ้นอีกจนทำให้ไม่มีสมาธิกับการเดินทาง
3. ต้องป้องกันตัวเองจากคนที่พยายามทำให้มิ้นท์ตกอยู่ในอันตราย
การทำแบบนี้มิ้นท์เข้าใจว่าทำให้หลายคนเป็นห่วงและสับสน ต้องขอโทษจริงๆนะคะ จนวันนี้ที่มิ้นท์เดินทางออกจากอัฟกานิสถานเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ทุกอย่างราบรื่นและปลอดภัยดีเลยรีบออกมาเขียนอธิบายทั้งหมด
การถ่ายทำครั้งนี้เป็นไปด้วยดีและน่าจะทำให้คนเข้าใจบริบทของอัฟกานิสถานผ่านมุมมองของคนธรรมดาๆมากขึ้น ไม่มีฉากสงคราม ระเบิด กราดยิง มีแต่บรรยากาศเมืองในวันธรรมดา ถนนหนทาง อาหารอร่อยๆ ความอึดอัด หรือวิธีหาความสุขของผู้คน เราได้เข้าใจเหตุผลของการต่อสู้ไม่รู้จบผ่านหลายมุมมอง โดยเฉพาะของคนตัวเล็กๆ มิ้นท์ได้เพื่อนหลายคนมาจากการเดินทางครั้งนี้ และได้อยู่เป็นกำลังใจให้กับคนที่ต้องบอกลาครอบครัวเพื่อไปหาชีวิตที่ดีกว่า...
คนอัฟานิสถาน คือ หนึ่งในชาติที่มิ้นท์ให้ความเคารพมากที่สุด
อยากให้ลองติดตามคลิปบอกเล่าเรื่องราวครั้งนี้นะคะ ซึ่งตั้งแต่นี้ไปจะมีการเปลี่ยนแปลงวิธีรับชมเพื่อจำกัดให้เฉพาะกับคนที่สนใจจริงๆ รายละเอียดจะมีการบอกอีกครั้งค่ะ
--------------
2. เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันแน่?
สิ่งที่เกิดขึ้นในข่าวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ หลายครั้งมันก็ไม่ตรงกันซะทีเดียว และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่สื่อหลักทำให้ทุกอย่างน่ากลัว
ในสายตาคนทั้งโลก Herat กำลังถล่มทลาย แต่ในเมืองชีวิตประจำวันยังดำเนินไปตามปกติ เห็นทหารบ้าง แต่ไม่มีการต่อสู้กลางเมือง น้องสาวของโซมาย่ายังไปสอบตอนเช้า คุณพ่อยังออกไปทำงาน คนในเมืองใช้ชีวิตกันต่อไป เพราะการแย่งชิงพื้นที่ระหว่างตาลีบันและรัฐบาลมีมาโดยตลอด มีมาแต่ไหนแต่ไรและคนที่นี่อยู่กันอย่างเคยชิน
การโจมตีครั้งล่าสุดเกิดใกล้สนามบิน ทำให้ไฟล์ทโดนเลื่อนไปหมด ทำให้คนนอกอย่างเราตกใจ เนื่องจากสนามบินอยู่ห่างไปแค่ 15 กิโล โซมาย่าที่ตอนแรกก็ดูสบายๆ ยังไปลองชุดเจ้าสาวกันอยู่ แต่พอถามเธอเรื่องตาลีบันและเหตุโจมตี เธอก็ตกใจเอามากๆ เลยเกิดการอัพเดทสถานการณ์ออกไปแบบนั้น เพิ่งมาทราบทีหลังหลังจากอยู่กับเธอเกือบอาทิตย์ว่าโซมาย่าค่อนข้างขี้ตกใจ เพราะตอนที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น น้าคนขับรถ และไกด์ทั้งหมดดูจะเฉยๆกับเหตุการณ์นี้ และมัวแต่วุ่นกับการจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้มิ้นท์ใหม่
ต้องขอโทษที่โพสท์ดังกล่าวทำให้ทุกคนเป็นห่วงนะคะ มิ้นท์ควรเช็คสถานการณ์ให้ละเอียดและรอบคอบก่อนลง เพราะเรามีผู้ติดตามเยอะ
การโจมตีเกิดขึ้นจริง โดยช่วงแรกรัฐบาลเพลี่ยงพล้ำแต่ก็มีการปรับกระบวนท่าและส่งทหารเข้ามาเพิ่ม รวมถึงของประเทศพันธมิตร สุดท้ายสามารถผลักดันตาลีบันออกจากบริเวณสนามบินไปได้ ทุกคนอธิบายว่า Herat เป็นเมืองสำคัญมากๆเพราะฉะนั้นยังไงรัฐบาลก็ไม่มีทางยอมเสียเมืองนี้ หลังจากนั้นเพื่อความปลอดภัยหน่วยรบพิเศษได้ใช้เวลาตรวจเช็ครอบสนามบินทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีตาลีบันหลงเหลืออยู่เพราะตาลีบันเคยยิงสายการบินพานิชย์มาก่อน
ระหว่างรอการกลับมาเปิดสนามบินอีกครั้ง คุณกูลไกด์หลักที่คาบูลและเพื่อนๆให้มิ้นท์ก็ย้ายมาอยู่กับโซมาย่า มาอยู่กับครอบครัวเธอ เพื่อความปลอดภัย และจะได้เห็นชีวิตแบบอัฟกันแท้ๆ ครอบครัวเธอดูแลมิ้นท์ดีมากตามแบบที่เขาพูดกันเลยว่าความเป็นมิตรของคนอัฟกัน คือ ที่สุดแล้ว
เมื่อรัฐบาลตรวจสอบพื้นที่รอบสนามบินเรียบร้อย สายการบินก็กลับมาบินตามปกติ และมิ้นท์ก็บินกลับมาที่คาบูลกับโซมาย่า เพราะคุณกูลช่วยให้เธอไปปากีสถานได้ก่อนตาลีบันจะเข้ามา มิ้นท์เองได้อยู่ตอนที่เธอบอกลาครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย
--------------
3. กลัวไหมที่เกิดเหตุการณ์เรื่องสนามบิน?
สิ่งที่น่ากลัวในตอนแรก คือ ความไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ รุนแรงแค่ไหน มิ้นท์เลยใช้เวลาส่วนใหญ่ติดต่อเพื่อนที่จะช่วยเราหาข่าวได้ ส่งข้อความหาเพื่อนคนอัฟกันทั้งที่ทำงานในสถานทูตอัฟกานิสถานในดูไบ และเพื่อนของเพื่อนที่มีครอบครัวเป็นตำรวจ รวมทั้งติดต่อกับคุณกูลที่คาบูลตลอดเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
ทุกคนบอกว่าทุกอย่างโอเค และไฟล์ทจะกลับมาบินอีกรอบในอีก 24-48 ชั่วโมง แต่ตอนนั้นแม้ทุกคนจะยืนยันว่ามันปกติมิ้นท์ก็ยังอดกังวลไม่ได้
ยิ่งถ้าตามสื่อหลักเราก็ยิ่งกังวล แม้พอจะรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นแบบนี้ สื่อมักเสนอภาพที่รุนแรงที่สุด เพราะข่าวรุนแรงมันขายได้ คนทั้งโลกเลยคิดว่าตาลีบันบุกเข้า Herat ได้แล้ว มีข่าวเขียนว่า 'ตาลีบันยึดเมือง Herat ได้แล้ว' มิ้นท์ส่งข้อความไปถามคุณกูลและเพื่อนหลายคนว่าจริงไหม คุณกูลตอบมาว่า ‘มิ้นท์ นี่เธอก็อยู่กลางเมือง Herat แล้วมีอะไรมั้ยล่ะ' ตอนนั้นถึงได้สติแล้วถึงกับตลกตัวเอง เพราะระหว่างที่ถามก็นั่งดื่มชาอยู่ในบ้านของลุงมาร์บูบคนขับรถและครอบครัวเขาอยู่
คุณกูลและเพื่อนๆในอัฟกานิสถานบอกว่าสำหรับพวกเราสิ่งนี้เกิดมาตลอด 40 ปี เชื่อพวกเราเถอะ อย่ากังวล ในเมืองปลอดภัยเหมือนเดิม ส่วนไฟล์ทก็ให้รอเวลาหน่อย เดี๋ยวก็กลับมาบินได้อีก ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
--------------
4. มานี่ใครช่วย ทำไมต้องรบกวนคนอื่น?
มาที่นี่มิ้นท์มาด้วยตัวเองค่ะ ทำวีซ่าท่องเที่ยวตามปกติ โดยบินไปดูไบ นั่งแท็กซี่ไปสถานทูต ยื่นผลตรวจโควิด ใบรับรองของบริษัททัวร์ ภาพถ่าย 1 ใบ เงิน 130$ ก็เรียบร้อย ได้วีซ่าบ่ายวันนั้นเลย
คนที่แนะนำไกด์และวิธีเดินทาง คือ เพื่อนๆที่เดินทางมาที่นี่เมื่อหลายเดือนก่อน ระหว่างอยู่ที่อัฟกานิสถานก็มีน้องในเพจแนะนำเพื่อนซึ่งเป็นคนที่นี่ให้รู้จัก
ในกลุ่มนักเดินทางพวกเราแลกเปลี่ยนคนพื้นที่ แลกเปลี่ยนไกด์ แลกเปลี่ยนข้อมูล นี่คือเรื่องปกติที่เราจะคอยช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเส้นทางที่ไม่มีในไกด์บุ๊ค หรือเส้นทางใหม่ๆ เพราะมิ้นท์อยู่กับการเดินทางแนวนี้มาจะ 10 ปีแล้ว เราเลยมีเพื่อนที่คอยแบ่งปันข้อมูล ไม่ได้รบกวนคนอื่นเลยค่ะ
--------------
5. เธอไม่เข้าใจความซับซ้อนของพื้นที่?
เพราะไม่เข้าใจก็เลยมาค่ะ มาอยู่กับคนของเขาเพื่อหวังจะได้เข้าใจมากขึ้น ความสงสัยของคนคือสิ่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลง สงสัย ตั้งคำถาม หาคำตอบ นี่เป็นการพัฒนาของมนุษย์
หลายคำตอบจากการเดินทางครั้งนี้บางอย่างก็เป็นแบบที่คนทั้งโลกคิด บางอย่างก็ไม่ใช่
--------------
6. มาทำไม ทำไมมาเอง ทำไมไม่มากับกองกำลังต่างชาติ?
มิ้นท์ขอย้ำว่ามิ้นท์เป็นนักเดินทาง ไม่ได้เป็นนักข่าว ไม่ได้เป็นคนทำสารคดี เวลาเดินทางเลยไม่ได้ติดต่อกองกำลัง เพราะมิ้นท์ไม่ได้มาถ่ายสงคราม
มิ้นท์บอกเหตุผลชัดเจนไปแล้วว่าที่มาเพราะอยากรู้ว่าที่อัฟกานิสถาน 'มีอะไรมากกว่า' สงครามไหม ชีวิตประจำวันของคนยังมีอยู่รึเปล่า คนไม่มีความสุขและผู้หญิงมีชีวิตที่แย่เหมือนในสื่อหลักรายงานจริงรึเปล่า และในสถานการณ์ไม่แน่นอนแบบนี้เขาจัดการความรู้สึกตัวเองได้อย่างไร
มิ้นท์มาอยู่กับคนไม่ได้มาหาสงคราม ไม่อยากเจอตาลีบัน ไม่ได้กระหายความอันตราย มิ้นท์มาด้วยความกลัวตาย เลยระวังและทำตามทุกอย่างที่คนท้องถิ่นบอก
แต่เข้าใจว่าพอคนเห็นคำว่าอัฟกานิสถาน ก็ต้องคิดว่ามาถ่ายสงครามทันที นี่คือผลของสื่อหลักที่สร้างอคติให้ประเทศหนึ่งๆ
จากประสบการณ์ที่ผ่านมามิ้นท์เชื่อว่าการอยู่กับคนท้องถิ่นจะปลอดภัยที่สุด เพราะพวกเขาไม่ใช่เป้าเหมือนกองกำลังต่างๆ
การเดินทางมิ้นท์พยายามมาฟังเรื่องราวของคนอีกคนในฐานะมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้มาสัมภาษณ์ ไม่ได้มาเป็นนักข่าว เรามีบทสนทนากัน และมิ้นท์ก็พยายามถ่ายทอดออกมาอย่างตรงไปตรงมาที่สุด การทำแบบนี้คือการมอบที่ยืนให้เสียงเล็กๆอื่นๆ ยิ่งมากมุม ก็ยิ่งมากความเข้าใจ
ไม่มีมุมไหนผิดหรือถูก มีแต่ว่าคนพูดยืนอยู่มุมไหน
--------------
7. คอนเท้นท์หิวแสง? ทำไมเดินทางต้องอวด?
เพจ I Roam Alone คือ เพจเดินทาง พอมีการเดินทางก็จะมีการลงคอนเท้นท์และลงอัพเดทตามปกติไม่ใช่การอวดนะคะ โดยเนื้อหาทั้งหมดมิ้นท์ลงในพื้นที่ของตัวเอง เป็นเรื่องราวของมิ้นท์เอง ไม่เคยพาดพิงใคร และในเวลานั้นประเทศอัฟกานิสถานเองไม่ได้เป็นที่พูดถึงในไทยเลย
คนที่หิวแสงน่าจะไม่ใช่มิ้นท์นะคะ :)
และที่สำคัญ คือ นี่เป็นคอนเท้นท์ปกติที่ทำอยู่เสมอมาโดยตลอด อาจจะเพราะช่วงโควิดที่มีคนใหม่ๆเข้ามาจำนวนมากเลยทำให้เกิดความไม่เข้าใจ
ในช่อง I Roam Alone มีการทำคลิปเผ่าล่าวาฬล่าสิงโตทะเลที่รัสเซีย เดินทางไปอิรักคนเดียว ไปซ่องที่บังคลาเทศ เข้าไปถ่ายเมืองขยะที่อียิปต์ ขึ้นรถไฟถ่านหินที่มอริเตเนีย ดำน้ำกับฉลามที่แอฟริกาใต้ แรงงานเด็กที่เหมืองทองคำในบูร์กีนาฟาร์โซ
นี่คือแนวทางคอนเท้นท์ของเพจโดยเฉพาะเรื่องราวของผู้คนในพื้นที่ที่คนทั่วไปไม่ค่อยเดินทางไป หรือไม่รู้จัก บางทีก็แตะประเด็นอ่อนไหวบ้าง โดยทั้งหมดจะทำโดยไม่ตัดสิน และพยายามเคารพพื้นที่นั้นๆที่สุด
หลังจากนี้ต่อไปคอนเท้นท์ที่มีความอ่อนไหวหรือแตกต่างจากเพจเดินทางอื่นๆ มิ้นท์จะสงวนไว้เฉพาะคนที่สนใจ หรือมีความเข้าใจเรื่องการเดินทางเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก รอติดตามต่อไปนะคะ
--------------
8. ไปอัฟกานิสถาน เป็น Human Zoo?
คำว่า Human Zoo เป็นคำที่รุนแรงมาก มันคือการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของอีกฝ่ายด้วยการมองว่าเขาต่ำกว่า มองว่าเขาเป็นของแปลก และเอาเขามาเป็นสิ่งสร้างความบันเทิง
ส่วนใหญ่คนที่ถูกกระทำจะเป็นชนเผ่าบ้าง เป็นคนที่เกิดมามีรูปลักษณ์ผิดแผก จนคนจ่ายเงินมาดูหรือมาถ่ายรูปด้วยโดยไม่สนว่าเขาเป็นมนุษย์อีกคน เช่น เอธิโอเปียเขาจะมีทัวร์ไปที่ Omo Valley เวลาเจอชนเผ่าก็จะเอารถเทียบข้างทาง คนวิ่งลงไปถ่ายรูป โยนเงินให้และกลับขึ้นรถ
มิ้นท์เคยไปมา เราพยายามทุกอย่างที่จะเข้าถึงคนท้องถิ่นแต่เพราะ Human Zoo ที่นี่รุนแรงมาก เลยตัดสินใจเดินทางออกมาทันที
และเพราะสาเหตุนี้เลยทำให้เรากลับมาทำท่องเที่ยวชุมชนและลงไปพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่แม่ตื่น เพื่อไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นในบ้านเรา อยากสร้างความเข้าใจว่าคนเป็นคนเท่ากันไม่ว่าอยู่ในสถานะไหน ที่ไม่เท่าคือการกระจายทรัพยากรที่ไม่ทั่วถึงเป็นผลมาจากความล้มเหลวของระบบราชการและรัฐบาล เราเคารพทุกคนเท่ากัน
มีเพจนึงพูดถึงมิ้นท์ว่ามิ้นท์ไป Human Zoo ที่อัฟกานิสถาน บอกว่าทุกการเดินทางของ Travel Blogger ที่เดินทางไปโดยไม่ใช่การทำสารคดีหรือการทำข่าวล้วนเป็น Human Zoo เพราะเป็นการเอาเรื่องราวคนอื่นมาสร้างเงินให้ตัวเองด้วยการตีความจากมุมเล็กของตัวเองโดยขาดความเข้าใจในเวลาสั้นๆ
แต่คนทำสารคดีและคนทำข่าวก็ได้เงินเหมือนกัน และคนทำข่าวและสารคดีก็ตีความจากมุมตัวเองเช่นกันนะคะ บางคนอยู่ยาว บางคนอยู่สั้น และเราก็ได้เห็นกันมาตลอดว่าความจริงสามารถถูกบิดเบือนด้วยใครก็ได้อยู่ที่เจตนาของคนหรือช่องข่าวนั้น
มิ้นท์ขอแชร์อะไรอย่างนึง เชื่อก็ได้ไม่เชื่อก็ได้ ในความเป็นจริงการเล่าให้ครบทุกมุมมันเป็นไปไม่ได้เลยแม้จะข่าวหรือสารคดีเอง เพราะคนเขียนข่าวก็คน คนทำสารคดีก็คน ทุกคนถูกจำกัดด้วยมุมมองและประสบการณ์ของตัวเอง ดังนั้นการมีคอนเท้นท์ที่หลากหลายจากหลายมุมมองจึงสำคัญ
เพจดังกล่าวควรย้อนถามตัวเองว่า การที่เขานำโพสท์และเรื่องราวของมิ้นท์มาเล่าผ่านมุมมองและการตีความของตัวเองเพื่อสร้าง traffic ให้เพจ โดยที่ไม่รู้จัก ไม่เคยคุย และดูจะไม่ได้ทำการบ้าน ด้วยเจตนาที่ถ้าให้พูดว่าดีคงไม่ได้ การกระทำทั้งหมดไม่ได้มีการขออนุญาต ทั้งการใช้ข้อความและภาพถ่าย แบบนี้น่าจะเป็น Human Zoo มากกว่าไหมคะ หรือจริงๆอาจเป็น Fake News ด้วยซ้ำ
การเดินทางโดยใครก็ตามถ้าทำให้ถูกต้อง จะช่วยสร้างความเข้าใจให้คนที่ไม่มีโอกาสไป สำหรับพื้นที่เปราะบาง ความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญ และสำหรับพื้นที่ท่องเที่ยวการโปรโมทก็พาเงินเข้าไปอย่างมหาศาล แต่เราต้องทำด้วยความเคารพมนุษย์อีกคน และรับผิดชอบที่สุด
ยกตัวอย่างบริบท 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มิ้นท์เป็นบล็อกเกอร์คนแรกๆที่ลงไป และเอาโปรเจคท่องเที่ยวลงไปโปรโมทอีกหลายครั้ง เราพยายามให้คนดูตัดสินใจเอง และดูว่ามันอันตรายอย่างที่สื่อหลักเสนอไหม ปัจจุบันที่หลายแห่งก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว
--------------
9. การเดินทางไปอัฟกานิสถานเป็นการใช้ทรัพยากรของเขา ทำให้พวกเขาลำบาก?
ถ้าคนเดินทางจะรู้ว่าพื้นที่ที่ปกติไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือการจัดการยากเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ยิ่งยากยิ่งสูง การไปแบบนี้ให้รับผิดชอบที่สุด คือ ทำการบ้านเพื่อจะไม่ต้องผ่านบริษัทคนกลางที่เป็นต่างชาติ และจ่ายเงินตรงกับทัวร์ในพื้นที่ เพื่อให้เงินของเรากระจายไปที่ไกด์ท้องถิ่น โรงแรม ร้านค้าที่เราเดินไปซื้อของ ร้านอาหาร ไหนจะคนขับรถ มันคือการซัพพอร์ทพื้นที่
นี่เป็นช่วงสุดท้ายของการมาที่นี่ เป็นช่วงที่ยังมีพื้นที่ปลอดภัย คนในพื้นที่บางส่วนก็กำลังเตรียมตัวย้าย ออก เพราะถ้าพ้นช่วงนี้ไปก็อาจจะมี civil war แบบช่วงหลังโซเวียตได้
--------------
10. ถ่ายรูปไกด์ ไกด์อันตราย?
ทุกครั้งในการถ่ายคลิปแบบนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่เปราะบาง ทั้งภาพนิ่ง วิดีโอ ไลฟ์ เราต้องขออนุญาตคนคนนั้นเสมอ ไม่มีการขัดขืนอีกฝ่าย และต้องถามเขาด้วยว่าเรื่องอะไรพูดได้หรือพูดไม่ได้เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย กับน้องโซมาย่าถ้าน้องไม่มีผ้าคลุม เราจะถามก่อนว่าอยากคลุมผ้าก่อนไหม มิ้นท์ดูให้ดีที่สุดสำหรับอีกฝ่ายเสมอ
ครั้งนี้ไกด์มิ้นท์ทุกคนอยากออกกล้อง โดยเฉพาะน้องโซมาย่าที่อยากให้เขียนถึงด้วย เพื่อที่ว่าเขาจะได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการขอวีซ่าลี้ภัยเดินทางไปประเทศอื่นๆได้ง่ายขึ้น
--------------
11. ทำไม Live ที่อัฟกานิสถานแล้วดูมีความสุข?
ถ้ามิ้นท์ร้องไห้ไกด์จะไม่เสียใจคิดว่ามิ้นท์ไม่ชอบบ้านเขาหรือคะ ถ้ามีคนมาเยี่ยมบ้านเรา รู้ทั้งรู้ว่าตอนนี้บ้านเราสถานการณ์ไม่ดี แต่การให้ร้องไห้และทำหน้าเศร้าตอนเขาพาเที่ยวที่สวยๆ มีแต่จะทำให้เขารู้สึกแย่ ในขณะเดียวกันถ้าเขาเล่าเรื่องเศร้าแล้วเราหัวเราะ อันนั้นก็ไม่เหมาะ มันคือกาลเทศะค่ะ
มิ้นท์ไปด้วยความคิดว่ามนุษย์ต้องการการเคารพและการให้เกียรติเสมอไม่ว่าเขาจะอยู่ในสถานการณ์ไหน โดยก่อนเปิด live มีการขออนุญาตเรียบร้อย
--------------
12. ทำไมไม่ทำคอนเท้นท์ที่ไทย ทั้งๆที่บ้านตัวเองก็แย่พอกัน ทำไมไม่ช่วย ไม่ Call Out?
มิ้นท์ไม่ได้ไปถ่ายความแย่ ไม่ได้ไปถ่ายสงคราม มิ้นท์บอกแล้วว่ามิ้นท์อยากไปเรียนรู้และเข้าใจความซับซ้อนของคนในพื้นที่นี้ อยากรู้ว่าข่าวเป็นจริงไหม คนไม่มีความสุขจริงไหม เขามีชีวิตด้านอื่นไหมนอกจากสงคราม มิ้นท์ชัดเจนมากๆเรื่องนี้ว่าเราไม่ได้ไปถ่ายสงคราม
ที่สำคัญ คือ มิ้นท์เป็นนักเดินทาง นี่เป็นอาชีพมิ้นท์ มิ้นท์เดินทางเหมือนทุกคนไปทำงานทุกวัน โดยทริปอัฟกานิสถานมิ้นท์วางแผนไปตั้งแต่ก่อน Lock Down
ส่วนเนื้อหาของประเทศไทย มิ้นท์คิดว่าปัจจุบันทุกคนรู้และเข้าใจแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น และมันแย่แค่ไหน มีคนที่ทำข้อมูลเจาะลึกมากมาย ซึ่งมิ้นท์เองก็ติดตาม และมิ้นท์ไม่ได้มีความถนัดด้านนี้ ดังนั้นเลยให้คนที่ถนัดทำโดยเราซัพพอร์ทอยู่ข้างหลังจะถูกต้องดีกว่าค่ะ
เรื่องช่วยเหลือมิ้นท์ทำอยู่เสมอ เฉพาะช่วงนี้ช่วยไปเกือบล้านบาทเพียงแค่ไม่เคยออกมาประกาศให้ใครรู้ มีการประสานช่วยเหลือให้ชุมชน และก่อนบินไปอัฟกานิสถานมิ้นท์ตัดสินใจเลื่อนทริปไปอีก 2 สัปดาห์เพื่อช่วยคนที่เราพอช่วยได้ก่อน ผลของการเลื่อน คือ มิ้นท์เองต้องแบกรับความเสี่ยงที่สูงขึ้น ยังไม่นับสถานที่หลายๆแห่งที่ไม่สามารถไปได้เพราะไปช้าเกินไป
มิ้นท์ไม่เสียใจนะเพราะช่วงเวลาที่เลื่อนไปเราได้ทำ Live ช่วยร้านอาหาร และ Live Goods For Fund ระดมทุนช่วยพี่ๆที่ 3 จังหวัดได้เงินมาล้านกว่าบาท ก็ช่วยต่อลมหายใจให้หลายคนได้เยอะ และคนในพื้นที่ก็มีกำลังใจสู้กันต่อ
เรื่องการ Call Out มิ้นท์เองมีการ call out ถึงเหตุการณ์ปัจจุบันอยู่ตลอด ใน Live ของ Goods For Fund ตอนนั้นก็พูดเรื่องนี้ และมีการเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกตั้งแต่ต้นไลฟ์ ใน Instagram เองก็ทำอยู่เสมอ แต่คนที่ไม่เคยติดตาม หรือแค่ผ่านๆก็ไม่แปลกที่จะไม่เห็น
เลิกเถอะที่บอกว่า 'ไม่ได้ตามเลยอ่ะ call out ยังนะ' ‘ดีนะไม่เคยติดตาม’ ‘ดีนะเลิกตามนานแล้ว เห็นไม่ call out' ประโยคเหล่านี้มันก็สะท้อนอะไรได้หลายอย่างแล้วนะคะ
อยากจะย้ำอีกครั้งว่า I Roam Alone คือ เพจเดินทาง คนตามเพจที่เรื่องราวการเดินทาง มิ้นท์ต้องให้เกียรติพื้นที่ตัวเองและคนที่อยู่ที่นี่ การจะให้ Call Out ทุกโพสท์เพื่อให้ทุกคนเห็นมันคงไม่ได้และมันไม่ควรทำเพียงแค่ต้องการให้คนอื่นเห็น และการ Call Out ทุกคนต้องมีสิทธิได้ทำในแบบของตัวเอง
อาจจะทำให้คนผิดหวัง แต่มิ้นท์ไม่ได้เป็นฮีโร่หรือคนสำคัญที่ไหน ไม่ได้มีอำนาจอะไร มิ้นท์เป็นแค่นักเดินทางที่พยายามเต็มที่แล้วในการทำหน้าที่ของประชาชนคนนึง แต่มิ้นท์ก็มีหน้าที่ต่อตัวเองและคนข้างๆมิ้นท์เช่นกัน
--------------
13. อีโก้จัด?
ทุกครั้งที่มิ้นท์ทำผิด มิ้นท์พร้อมจะขอโทษและปรับปรุงเสมอ มิ้นท์ไม่เคยบอกว่าตัวเองรู้ทุกอย่าง ยิ่งเดินทางก็ยิ่งรู้ว่ารู้น้อย แต่มิ้นท์ก็พยายามเรียนรู้อยู่ตลอด มิ้นท์เชื่อว่าทุกคนสามารถเติบโตเป็นเวอร์ชั่นที่อัพเกรดไปเรื่อยๆได้ บางทีก็อัพเกรดพัง ก็ต้องกลับมาอัพเกรดใหม่ อยากจะบอกว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบบนโลก มิ้นท์เองก็เป็นมนุษย์ธรรมดาๆที่มีข้อเสีย แต่เราก็พยายามอยู่ในการปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
เราแค่หวังว่าการเตือนกันจะเป็นไปอย่างนุ่มนวลกว่านี้ ไม่ใช่ทุกคนต้องถูกด่าเท่านั้นถึงจะปรับปรุงได้แบบรัฐบาลนะคะ
--------------
14. ทำไมตอบนักการทูตแบบนั้น?
คำถามที่ถามมาเรื่องสถานทูต มิ้นท์ตอบตามเหตุการณ์จริง โดยไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเราคิดว่าเพื่อนคนอัฟกันที่ทำงานที่สถานทูตอัฟกานิสถานในดูไบจะอัพเดทข้อมูลให้เราตอนนี้ได้ดีกว่า เพราะมั่นใจว่าเวลาเกิดเหตุการณ์โจมตี ครอบครัวของคนในเมือง Herat ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศจะต้องสอบถามมาแน่นอน ข้อมูลเขาน่าจะครบถ้วน เพื่อนในสถานทูตของประเทศอัฟกานิสถานเลยเป็นตัวเลือกแรก นอกจากนั้นยังมีเพื่อนๆที่นี่และไกด์เองที่ติดตามข่าวตลอด โดยมิ้นท์เองก็พูดในโพสท์ว่านี่คือการ 'เช็คข้อมูล' เท่านั้น
แต่ถ้าต้องอยู่ในสถานการณ์รุนแรงที่ต้องเอาตัวเองออกมาจริงๆ เราก็ต้องติดต่อกับสถานทูตไทย ซึ่งทุกการเดินทางจะระวังมากที่จะไม่ให้เกิดขึ้น เพราะการเดินทางของเราไม่ควรเดือดร้อนใคร ถึงวันนี้มิ้นท์เดินทางมา 10 ปียังไม่เคยต้องรบกวนและหวังว่าทุกการเดินทางจะราบรื่นแบบนี้ต่อไปด้วยนะคะ
(การเดินทางต้องมีคอนแทคสถานทูตพื้นที่ที่ดูแลซึ่งมิ้นท์และน้องผู้ช่วยมิ้นท์ก็มีคอนแทคของสถานทูตไทยในกรุงอิสลามาบัด ขอบคุณพี่ยะยาห์ที่คอยถามข่าว)
แต่เพราะครั้งนี้มันยังไม่ใช่การอพยพออกและปัจจุบันไทยไม่มีสถานทูตที่นี่อย่างที่ท่านทูตบอก ดังนั้นการติดต่อสถานทูตไทยจึงไม่ได้อยู่ในความคิดตอนนั้นเลย
แต่มิ้นท์ลืมคิดไปว่าเราตอบสั้นไป ด้วยความเข้าใจว่ามันสมเหตุสมผลแล้ว ยิ่งตอนแรกที่ไม่ได้ทราบว่าเป็นนักการทูต ยิ่งควรตอบให้ชัดเจนกว่านี้ มิ้นท์ผิดเองจริงๆค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ
สำหรับเรื่องที่แฟนเพจมิ้นท์ไปคอมเม้นท์รุกล้ำพื้นที่ของคนอื่น มิ้นท์ต้องขอโทษแทนทุกคนในเพจมิ้นท์ด้วยนะคะ และต้องขอโทษที่มิ้นท์ไม่ได้รีบออกมาชี้แจง
สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ก่อนลบโพสทั้งหมดมีเสียงรถตำรวจวิ่งผ่านหลายคัน น้าคนขับรถบอกว่าเวลาที่เกิดแบบนี้ทุกคนจะกลับเข้าบ้าน พวกเราเลยรีบออกจากร้านอาหารและแวะไปเอาของจากโรงแรมย้ายมาอยู่บ้านน้องโซมาย่าทันที เพราะเขาบอกว่าแบบนี้จะปลอดภัยกว่า ด้วยความไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น เลยรีบส่งข้อความให้น้องลบโพสท์ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย และแม่กับเพื่อนๆก็บอกให้เลิกตามข่าวที่ไทยทันที เพื่อจะได้มีสมาธิกับการจัดการสถานการณ์ตรงหน้า เพราะนี่ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องอื่น
มิ้นท์ต้องขอโทษด้วยจริงๆ มิ้นท์เข้าใจว่าพี่ๆน้องๆในเพจรักเรามาก และด้วยประโยคนั้นของเราทำให้คนตีความได้เยอะ อันนี้เป็นความผิดพลาดของมิ้นท์ ต้องขอโทษนักการทูตแทนทุกคนจากใจจริงค่ะ
--------------
15. เรื่องการดำเนินคดีทางกฏหมาย....
มาถึงสิ่งที่น่าผิดหวังที่หวังที่สุดในเหตุการณ์นี้ คือ มิ้นท์ไม่คิดว่าคนจะสามารถเกลียดชังอีกคนด้วยประโยคไม่กี่ประโยคจนปลุกปั่นให้สถานการณ์บานปลายได้ขนาดนี้ และไม่คิดว่าการเดินทางมาอัฟกานิสถานเพราะว่าเรามีอาชีพเป็นนักเดินทาง และนี่คือประเทศที่เราสนใจ โดยเป็นการเดินทางด้วยทรัพยากรของตัวเอง ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนๆตัวเอง ด้วยการตัดสินใจในครอบครัวของตัวเอง และการอัพเดทสถานการณ์ทั้งหมดลงบนพื้นที่ของตัวเอง จะเป็นเหตุผลเพียงพอที่ทำให้อีกคนขว้างปาคำพูดที่หยาบคาย สาบแช่งให้ตาย เชียร์ให้ถูกจับเป็นตัวประกัน ด่าว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สร้างและกระจายความเกลียด และที่โหดร้ายที่สุด คือ มีความพยายามทำให้เราตกอยู่ในอันตราย
ตอนที่มิ้นท์เดินทางไปอินเดีย มิ้นท์เคยโดนแช่งให้ถูกรุมโทรม โดนแช่งให้ถูกลากไปข่มขืน ซึ่งตอนนั้นเราก็อดทน ใจเย็นเสมอ และไม่ว่าที่ผ่านมาจะโดนอะไร ไม่ว่าจะครั้งไหนเราก็อดทนและใจเย็น
แต่มาครั้งนี้ในสถานการณ์ที่คนรอบข้างก็ห่วงเรามากอยู่แล้ว เขายังต้องแบกรับความโหดร้ายเหล่านี้โดยไม่กล้าเล่าให้เราฟัง ขนาดมิ้นท์เห็นน้อยมากยังตกใจ
นี่คือชีวิตคนอีกคนนึง ไม่ใช่แค่ชื่อหรือรูปภาพบนโลกออนไลน์ที่เราสามารถพิมพ์อะไรก็ได้โดยไม่ต้องคิดถึงอีกฝ่าย มิ้นท์เป็นมนุษย์จริงๆ เป็นลูกสาว เป็นเพื่อนสนิท เป็นพี่สาว เป็นน้องสาว เป็นหลานของคนอีกหลายคน ไม่ใช่ที่ระบายความโกรธความเกลียดนะคะ ก่อนจะพิมพ์ข้อความเหล่านี้อยากให้หยุดคิดก่อน
และสำหรับคนที่ไม่ได้หยุดคิดเลย มิ้นท์ให้อภัย แต่ยังไงทุกการกระทำก็จะต้องมีผลที่ตามมา ครั้งนี้มิ้นท์และครอบครัวจะมีการดำเนินคดีฟ้องร้องทางกฏหมายกับทุกคนที่ล่วงละเมิดโดยไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้นค่ะ
--------------
16. สิ่งที่น่าผิดหวังยิ่งกว่า....
สิ่งที่น่าผิดหวังยิ่งกว่า คือ สื่อหลักเองไม่เคยทำหน้าที่ของตัวเองในการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง หรือช่วยสร้างความเข้าใจ มีแต่สร้าง fake news เรียกยอดคลิ๊ก สร้างความแตกแยก ปลุกปั่นความเกลียดชัง คอยหากินบนดราม่า นี่มันน่าผิดหวังจริงๆ
ดังนั้นการดำเนินคดีตามกฏหมายก็จะตามมาเช่นกัน
วันนี้เราตัดสินกันมากเกินไป เราเอาตัวเองเป็นไม้บรรทัด เป็นบรรทัดฐานคอยโบยตีคนอื่น เพราะคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่าง มุมของเราดีที่สุด เราสำคัญตัวเองว่าเราคือตัวแทนของความดี ของความจริง ซึ่งจะคิดแบบนั้นก็ได้ แต่การไม่หยุดแค่คิด กลับตัดสินใจทำร้ายอีกฝ่ายให้พังพินาศ ด่าว่าแค่เพราะเขาไม่ทำเหมือนที่เราต้องการ มันก็จะมีผลลัพท์ที่ตามมาค่ะ
ถ้าเราไม่แน่ใจความคิดเขา ลองตีความในแง่ดีก่อน ไม่เข้าใจก็ให้เวลาเข้าใจก่อนจะพูด มันจะช่วยให้เรายืนอยู่บนความต่างให้ได้โดยไม่ทำร้ายกัน การไม่ทำร้ายกัน คือ สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่หรือ การแลกเปลี่ยนแบบสร้างสรรค์ คือ สิ่งที่คนยุคนี้ต้องการนี่
ความต่าง คือ ความสวยงาม อย่าทำให้โลกเป็นสีดำ อย่าทำให้โลกกลายเป็นพื้นที่ที่ทุกคนอยู่ร่วมกันไม่ได้
--------------
17. มิ้นท์โลกสวยและไม่แคร์อะไร?
สำหรับคนที่บอกว่ามิ้นท์โลกสวย เชื่อเถอะว่ามิ้นท์เดินทางมาขนาดนี้ มิ้นท์อยู่กับความจริงมากพอ และถ้าโลกสวยขนาดนั้น แต่เดินทางขนาดนี้ วันนี้คงไม่ได้มานั่งพิมพ์ข้อความอยู่แล้วค่ะ
มิ้นท์เคยบอกไว้แล้วว่าทุกการเดินทางของตัวเอง เราจะพยายามนำมุมเล็กๆที่สวยงามออกมาเสนออยู่ตลอด ไม่ว่าที่นั่นจะแย่แค่ไหนก็ตาม เพราะมันมีคนที่นำความจริงในมุมที่โหดร้ายออกมาเยอะแล้ว ลองกดดูข่าวตอนนี้ มีแต่ภาพสงคราม ความน่ากลัว ความเกลียดชัง โลกกลายเป็นเป็นสีดำสนิททั้งใบ ทุกที่มีแต่ปัญหา แล้วเราจำเป็นต้องเติมสิ่งเหล่านี้เข้าไปอีกหรือ ทำไมเราถึงจะพยายามเติมด้านอื่นเข้าไปบ้างไม่ได้
มันไม่ง่ายนะที่มิ้นท์จะพยายามหาแสงสว่างในความมืด โดยมีคนพยายามจะดับมันเสมอ แต่มิ้นท์คิดว่ามันจำเป็น มันจำเป็นมากๆ เพราะการที่เรารู้ว่าชีวิตยังมีความสวยงาม แม้ในวันเลวร้ายที่สุด มันคือความหวังที่สำคัญ
และสำหรับบางคน ความหวังคือสิ่งสุดท้ายแล้วที่เขามี
--------------
18. ต่อไปในพื้นที่ของ I Roam Alone
สำหรับ I Roam Alone มิ้นท์ตั้งใจให้พื้นที่นี้เป็นที่เทาๆสว่างๆ ให้คนคุยกันน่ารักๆ แลกเปลี่ยนกันอย่างอ่อนโยน เป็นพื้นที่เรียนรู้ของเด็กๆ พื้นที่สนุกๆของผู้ใหญ่ พื้นที่หัวเราะของอากงอาม่า ให้ทุกคนที่นี่อยู่ด้วยกันอย่างสบายใจ สบายตา และสบายอารมณ์ที่สุด นี่คือเป้าหมายของพื้นที่นี้
เพราะแบบนั้นคอมเม้นท์ที่รุนแรง สร้างการขัดแย้ง ทางเพจมีความจำเป็นที่จะต้องลบหรือบล็อคนะคะ เพราะมิ้นท์อยากให้ที่นี่เป็นพื้นที่ปลอดภัย ให้คนที่มาอยู่ด้วยกันอยู่กันด้วยความเข้าใจ เหมือนมานั่งเอกเขนกเรียนรู้โลกนี้ไปพร้อมๆกัน
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ขอให้ทุกคนปลอดภัย รักษาสุขภาพให้ดี
:)
3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 อาสาพาไปหลง - asapapailong Youtube 的最佳解答
3จังหวัดชายแดนใต้EP.8 ปิดซีซั่น!!
วัยรุ่นปัตตานี เค้าปาร์ตี้กันยังไง?!
ปัตตานี Night life!!
#อาสาพาไปหลง
#ปัตตานี
3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 อาสาพาไปหลง - asapapailong Youtube 的最佳解答
"ใต้พื้นดินเป็นทองคำทั้งหมู่บ้าน สุคิริน นราธิวาส?!?"
เดินทางล่องใต้ทริปนี้ไอเท็มที่นักเดินทางอย่างผมขาดไม่ได้คือนาฬิกาสักเรือนอย่าง RADO Captain Cook
ที่ดีไซน์วินเทจ คงความคลาสสิคที่อยู่เหนือกาลเวลาด้วยวัสดุที่ทันสมัย
เหมาะสำหรับนักเดินยุคใหม่สุดเท่อย่างเรา!!
#นราธิวาส
#RADOCaptainCook
#อาสาพาไปหลง
3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 อาสาพาไปหลง - asapapailong Youtube 的最讚貼文
เที่ยวปัตตานี สีเขียว!!
ชุมชนบางปู ที่ปกคลุมไปด้วยป่าโกงกาง
แถมกินอาหารทะเลหรอยๆ ทั้งปูนึ่งไซส์ยักษ์ แกงเหลืองยันยำสาหร่าย!!
#อาสาพาไปหลง
#ปัตตานี
#บางปู
3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 งานราชการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ - Home - Facebook 的美食出口停車場
งานราชการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้. 59399 likes · 904 talking about this. ข่าวรับสมัครงาน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้. ... <看更多>
3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 在 รีวิวเที่ยว 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้!!! จะน่ากลัวอย่างที่เค้าว่าไหม??? 的美食出口停車場
สนใจติดต่อเรื่องการลงโฆษณาหรือการร่วมงาน กรุณาติดต่อผมทางนี้ เท่านั้นFor business inquires ONLY contact me here: [email protected]. ... <看更多>