เออใช่
จริงมากเลยครับ
.
###
-ผู้ชนะสี่ทิศ-
###
5 สิ่งที่คนประสบความสำเร็จมักทำเหมือนๆกัน
.
ช่วงชีวิตที่ผ่านมา ผมได้ไปเจอกับคนที่ประสบความสำเร็จในหลากหลายวงการ คนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ มาเยอะมาก มีโอกาสได้พูดคุย ได้แลกเปลี่ยนทัศนคติ เลยทำให้รู้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จนั้น มี "ชุดความคิด" ที่คิดเหมือนๆกัน และมี "ชุดพฤติกรรม" ที่ทำคล้ายๆกัน วันนี้อยากเอามาแชร์ให้ฟังกันครับ
.
ความสำเร็จในชีวิตมีหลายด้าน ซึ่งทุกความสำเร็จล้วนแต่มี "ราคา" ที่คุณต้องจ่าย และหลายๆครั้งไม่ได้จ่ายแค่ "เงิน" แต่ต้องจ่ายด้วย "เวลา" และ "ความตั้งใจ" ที่นานพอ จนเกิดผลลัพธ์ในชีวิต
.
และทุกความสำเร็จล้วนแต่มี "เบื้องหลัง"
ที่บางครั้งคุณเห็นคนบางคน เขาทำอะไรดูสำเร็จง่ายเหลือเกิน จนบางที
คุณอาจเผลอคิดในใจว่า "โหย...ทำไมเขาถึงโชคดีขนาดนั้นนะ!"
.
จริงๆแล้ว ยิ่งความสำเร็จไหนที่ดูง่ายเท่าไหร่ แปลว่าเขาได้ "จ่าย" มาเยอะมากเท่านั้น ล้มเหลวมาเยอะ ผ่านนู่นนี่นั่นมาเยอะ
คุณเห็นได้แค่ฉากหน้าของความสำเร็จนั้น แต่คุณไม่มีทางรู้เลยว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง เสียเหงื่อและน้ำตาไปกี่หยด ถึงจะมีวันนี้ได้...
.
และนี่คือ 5 สิ่งที่คนประสบความสำเร็จแทบทุกคนทำเหมือนๆกัน
.
.
1. เรียนรู้อยู่เสมอ
.
ผมไม่เคยเห็นคนที่ประสบความสำเร็จคนไหนที่ไม่ "รักการเรียนรู้"
ทุกคนเรียนรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา ทั้งความรู้เชิงลึกในสายอาชีพของตัวเอง และความรู้ใหม่ๆ สิ่งใหม่ๆ ที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน
.
แต่ละคนมี "โหมด" ในการเรียนรู้ต่างกันไป
บ้างก็ชอบเข้าสัมมนา
บ้างก็ชอบคุยกับคนเก่งๆ
บ้างก็อ่านหนังสือ
บ้างก็ดู Youtube ดู Ted Talk
หลายๆคน ก็เรียนรู้ผ่านทุกทางที่พูดมาข้างต้น
.
คนสำเร็จมักจะสำเหนียกอยู่เสมอ
ว่าโลกหมุนตลอดเวลาและโลกเปลี่ยนแปลงเร็วเสมอ
"อะไรที่พาเขามาถึงจุดนี้ มันอาจพาเขามาไกลได้แค่นี้เท่านั้น
ไม่เพียงพอที่จะพาเขาก้าวสู่จุดต่อไป"
ดังนั้นทุกคนจึง "กระหาย" ที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา
.
"Stay Hungry, Stay Foolish" - Steve Jobs
.
.
2. สร้าง Connection เสมอ
.
ผมไม่เคยประสบความสำเร็จอย่างโดดเดี่ยว ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเก่งแค่ไหน
คนที่ประสบความสำเร็จมักจะหา Connection หาเครือข่ายเพิ่มเติมเสมอ
.
เพราะ วิธีหนึ่งในการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วที่สุด คือพยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่ใน "ฝูง" คนที่ประสบสำเร็จในด้านนั้นๆ
.
คุณลองนึกภาพถ่านในเตาจิ้มจุ่มหรือหมูกะทะ จะพบสัจธรรมในข้อนี้
ถ่านที่อยู่กับถ่านที่ติดไฟด้วยกันเท่านั้น ถึงจะสร้างความร้อนที่มากพอ
จนเกิดการเปลี่ยนแปลง ถ้าถ่านก้อนไหน อยู่เดี่ยวๆไม่มีถ่านก้อนนั้นจะดีแค่ไหน ยังไงแป๊บเดียวก็ดับ...และถ่านบางก้อน ต่อให้ทีแรกไม่ติดไฟ พออยู่ในเตาไปซักพัก ได้ไฟจากถ่านก่้อนอื่น ไม่นานมันก็จะติดไฟขึ้นมา
.
ยิ่งสำหรับประเทศนี้ ที่ระบบอุปถัมป์หยั่งรากลึกจนอาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ทำให้ "Know who สำคัญกว่า Know How"
เพราะการที่คุณรู้อะไร ไม่สำคัญกว่าที่คุณรู้จักใคร
และสำหรับสมัยนี้ เหนือกว่า "Who you know คือ Who know you!"
สำคัญกว่าคุณรู้จักใคร คือใครรู้จักคุณ(บ้าง)!
.
"You are the sum of 5 people you spend the most time with.
Choose carefully" - Anonymous
.
.
3. ตั้งเป้าหมายทุกครั้งก่อนจะทำอะไร
.
ถ้าเปรียบชีวิตคน เหมือนเป็น "เรือ"
คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตแบบไหลตามกระแสน้ำกระแสลม
เป็นเหมือนเรือที่ไม่ได้กางใบ ไร้หางเสือ
วันนี้นำ้ไหลไปทางนี้ก็ไปทางนี้ พรุ่งนี้ลมพัดไปอีกทางก็ลู่ตามไป
.
ในขณะที่คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่มีใครยอมให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น
ทุกคนคิดเสมอว่าชีวิตเป็นของ เขามีสิทธิ Fully Control ชีวิตเขา 100%
โดยไม่ยอมปล่อยไหลไปตามกระแส
ดังนั้นถ้าเขาเป็น "เรือ"
ทุกครั้งก่อนออกจากท่า เขาได้ปักหมุด ตั้งเป้าหมายเอาไว้เสมอ
ว่าจะไปที่ไหน ไปอย่างไร ถึงเมื่อไหร่และจะได้อะไรที่ปลายทางนั้น
.
คำคมที่ผมชอบที่สุดอันหนึ่งคือ
"There where's a will, there's a way"
เมื่อใดที่มี Will จะมี Way เสมอ
เมื่อคุณตั้งเป้า คุณจะรู้ว่าคุณจะทำอะไร เป็นอะไรหรืออยากได้อะไร
มันจะปรากฏหนทางให้คุณเดินเสมอ
.
"Setting goals is the first step in turning the invisible into visible" - Anthony Robbins
.
.
4. ลงมือทำ
.
สะพานเชื่อมระหว่างความจริงกับความฝัน คือการ "ลงมือทำ"
นิสัยของคนสำเร็จที่ผมเจอ คือ ลงมือทำเสมอ
เจอหน้ากันแต่ละที มีเรื่องอัพเดทตลอด
มีโปรเจคใหม่ๆที่ทำไปถึงขั้นโน้นขั้นนี้แล้ว
คือเป็นพวก "คิดแล้วทำ" เสมอ!
.
หนังสือหลายเล่มบอกว่าทุกคนต้องฝันให้ใหญ่และไปให้ถึง
แต่ข้อแตกต่างระหว่าง "คนมีฝัน" กับ "คนเพ้อฝัน"
คือ "ขนาดของการลงมือทำ"
.
อย่าเอาแต่ฝัน
อย่ามัวแต่คิด
อย่าดีแต่ปาก
.
เพราะชีวิตจะเปลี่ยนได้เฉพาะจาก "น้ำเหงื่อ" ที่ลงมือทำ
ไม่ใช่จาก "น้ำลาย" ที่พ่นออกมา!
.
และไม่ว่า "ความคิด" คุณจะเจ๋งแค่ไหน
ถ้าไร้ซึ่ง "การลงมือทำ" แล้ว ทุกอย่างก็ไร้ค่าครับ
.
และคนประสบความสำเร็จมักไม่ชอบทำอะไรซ้ำๆเดิมๆด้วย
เท่าที่ผมเจอ ส่วนใหญ่จะชอบอะไรที่ท้าทาย
.
เวลาที่คุณทำอะไรแล้วรู้สึกชิล รู้สึกง่ายๆ เบสิคมาก
สิ่งนั้นไม่มีทางเปลี่ยนชีวิตคุณ
.
แต่ถ้าสิ่งไหนที่คุณทำแล้วมันท้าทาย มันรู้สึกเสี่ยงๆเสียวๆนิด
และต้องใช้ความพยายามประมาณนึง ถึงจะทำมันได้ดี
นี่แปลว่าคุณมาถูกทางแล้ว ลงมือทำเลยครับ!
.
"If it doesn't challenge you, it won't change you" - Fred Devito
.
.
5. สร้างนิสัยที่ดีใหม่ๆตลอดเวลา
.
ผมว่าทุกคนในประเทศนี้ รู้ว่าควรสร้าง "นิสัยดีๆ" เหล่านี้
.
ออกกำลังสม่ำเสมอ
ทานอาหารที่มีประโยชน์
อ่านหนังสือดีๆทุกวัน
ลดเวลาเล่น Smartphone แล้วหันมาใส่ใจกับคนรอบข้าง
ฯลฯ
.
เราทุกคนรู้ว่าดีและอยากทำมัน แต่หลายๆครั้งชีวิตเราเต็มไปด้วยข้ออ้าง เวลาจะลงมือทำอะไรซักอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง
.
คนส่วนใหญ่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นใครที่ "สามารถเปลี่ยนแปลงได้" คนๆนั้นจึงไม่ใช่ "คนส่วนใหญ่"
และ "คนส่วนใหญ่" ก็ไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จครับ
.
Dr.Maxwell Malt ศัลยแพทย์และนักเขียนชื่อดังชาวอเมริกัน เจ้าของทฤษฎี "21-Day Habit Theory" บอกว่า หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่คุณจะสร้างนิสัยใดๆให้เกิดขึ้น คือทำสิ่งนั้นซ้ำๆย้ำๆ 21 วันต่อเนื่องกัน ถ้าคุณทำได้พฤติกรรมนั้นๆจะกลายเป็น "นิสัย" ของคุณ
.
จากข้อ 4. ผมพูดว่า
คนที่ประสบความสำเร็จ คือคนที่"ลงมือทำเสมอ"
และ "ทำซ้ำ" นานพอ จนเกิดผลลัพธ์
.
นี่เป็นหัวใจเลยนะครับ
การ "ลงมือทำ" ไม่ได้ทำให้คุณประสบความสำเร็จนะครับ
แค่เป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น
แต่การ "ลงมือทำที่นานพอ" ต่างหาก
เนี่ยแหละคือหัวใจของสำเร็จที่แท้จริง!
.
"Motivation is what gets you started. Habit is what keeps you going." - Jim Rohn
.
.
ชีวิตของคุณพิเศษเกินกว่าที่จะเป็นคนธรรมดาครับ
ครูชัย
.
.
===========================
.
.
#MIB Marketing in Black
การตลาดง่ายๆเพียงปลายนิ้ว
By #ครูชัย
.
อ่านบทความย้อนหลังทั้งหมดของ M.I.B
www.marketinginblack.net
มาพูดคุยและรับอาหารสมองดีๆแบบนี้ได้ที่
Line@ : @marketinginblack (ต้องใส่ @ นำหน้า)
หรือกด Add ที่ลิงค์ได้เลยครับ >>> http://goo.gl/xfdp9o
Search